กระทรวงพลังงาน เตรียมเปิดของขวัญปีใหม่ ตรึงราคาน้ำมัน-แอลพีจี เคาะ 21 ธ.ค.

     ความคืบหน้ากรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกกระทรวงไปจัดเตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยจะมีการประชุมอนุมัติในที่ประชุม ครม. วันที่ 21 ธ.ค. นี้ (อ่านต่อรายละเอียด)
 

     ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.) มีรายงานว่า ในส่วนของกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดขึ้นตอนสุดท้ายมาตรการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยวันที่ 21 ธ.ค. นี้ จะเสนอเข้าสู่ ครม. ก่อนที่  นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน จะแถลงรายละเอียดวันที่ 23 ธ.ค. 

     เบื้องต้นมาตรการที่เตรียมดำเนินคือ มาตรการตรึงราคาน้ำมันช่วงปีใหม่ของสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ส่วนช่วงเวลารอสรุปอีกครั้ง แต่น่าจะเปลี่ยนไปจากของขวัญปี 2564 ที่ตรึงราคารวม 10 วัน วงเงินการช่วยเหลือกว่า 100 ล้านบาท

     ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีของขวัญอีกชิ้น คือ มาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) สำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม ราคา 318 บาทต่อถังออกไป เนื่องจากจะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาวันที่ 31 ธ.ค. นี้ 

     โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ เป็นประธาน จะมีการพิจารณารายละเอียดกรอบการขยายเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง หลังปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้อุดหนุนบัญชีแอลพีจีและบัญชีน้ำมัน จนฐานะกองทุนฯ ล่าสุด ติดลบแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างกู้เงินมาอุดหนุน 20,000 ล้านบาท
 

     ขณะที่ในส่วนของมาตรการค่าไฟ เดิมของขวัญปี 2564 ได้ออกมาตรการตรึงค่าไฟจากมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แต่เนื่องจากปีนี้สถานการณ์ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ กกพ. ประเมินว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะมีเพิ่มขึ้นตลอดปี 2565 ซึ่งการขึ้นเอฟทีดังกล่าวส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ย หรือที่เรียกเก็บกับประชาชนอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.61 บาทต่อหน่วย อัตราที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้ช่วยบรรเทาผลกระทบประชาชนพอสมควร ขณะเดียวกันจะนำค่าเอฟทีส่วนที่เหลือไปเกลี่ยในงวดถัดไปคือ พฤษภาคม-สิงหาคม 2565 และกันยายน-ธันวาคม 2565 ให้ระดับการขึ้นค่าเอฟทีใกล้เคียงกัน