นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงการเสนอการข่าวของสื่อออนไลน์ จากนักวิจัยเขียนวิเคราะห์ เตือนกองทุนประกันสังคมจะมีปัญหาความยั่งยืนที่ชัดเจนภายใน 10 ปี หากไม่มีการดำเนินการนโยบายใดๆ โดยเฉพาะกองทุนชราภาพจะมีปัญหาที่สูงที่สุด และเสนอแนะทางแก้ไขเชิงนโยบายให้สำนักงานประกันสังคมปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานค่าจ้างสูงสุด ปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบ รวมทั้งขยายอายุเกิดสิทธิรับบำนาญอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในเรื่องดังกล่าว สำนักงานประกันสังคม ได้เล็งเห็นสภาพปัญหาที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมในอนาคต พร้อมทราบดีถึงสถานการณ์ดังกล่าว และเป็นผู้ประเมินสถานะกองทุนร่วมกับงานวิจัยหลาย ๆ ฉบับที่ข่าวอ้างถึง โดยสำนักงานประกันสังคมมีนโยบายปฏิรูปตามข้อเสนอแนะของผู้เขียนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2559 ทั้งนี้ การดำเนินการจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและทำในช่วงสถานะการเศรษฐกิจที่เหมาะสม
สำหรับความคืบหน้าในส่วนการแก้ไขกฎหมาย ได้แก่
“ผมไม่อยากให้ผู้ประกันตนหวั่นวิตกจนเกินไป เนื่องจาก สปส. มุ่งมั่นปฏิรูปองค์กรและการทำงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อไม่ให้ภาระทั้งหมดตกไปถึงมือรุ่นลูกรุ่นหลาน”
นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า สปส.ได้กำหนดแผนการสร้างความมั่นคงให้กับกองทุนประกันสังคมไว้ในแผนปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม โดยกำหนดแนวทางดำเนินการแล้ว เช่น การปรับปรุงเพดานค่าจ้างในการคำนวณเงินสมทบมาพิจารณาปรับใช้เป็นระยะ ๆ
“เพื่อให้กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพมีความยั่งยืนและมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายบำนาญให้ผู้ประกันตนได้ตลอดไป จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากผู้ประกันตน และนายจ้าง ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางใด ๆ ย่อมอาจส่งผลกระทบ ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความรู้สึกของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง ดังนั้นก่อนที่ สปส. จะปรับปรุง การดำเนินการต่าง ๆ ก็จะสอบถามความคิดเห็นจากผู้มีส่วนร่วมออมเงินทุกฝ่าย เพื่อให้ช่วงเปลี่ยน ผ่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน” นายบุญสงค์ กล่าวในตอนท้าย