พรรคประชาธิปัตย์สถาบันการเมืองอันดับหนึ่งของประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากอายุไขที่จัดตั้งขึ้น กำลังเข้าไปสู่ด่านสำคัญอีกระลอกหนึ่งและเป็นงานสำคัญที่จะมีการพิจารณาตัดสินใจกันในวันที่ 18 ธันวาคม 2564
จริงๆ แล้วแค่เลือกรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ดูไม่น่าจะยิ่งใหญ่ แต่ถ้าดูที่มาหรือว่าบุคคลที่เข้าแข่งขันจะบ่งบอกถึงแนวคิดที่แตกต่าง และการเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั้นจะนำไปสู่คำตอบอนาคตของประชาธิปัตย์
ประชาธิปัตย์กำลังที่จะเปลี่ยนโครงสร้างและกำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง ในยุคหนึ่งประชาธิปัตย์ชูนโยบายเป็นตัวตั้งและขับเคลื่อนจากฐานคะแนนเสียง แต่พอถึงยุคปัจจุบันต้องยอมรับอย่างนึง ปรากฏการณ์ในสถานะปัจจุบันนั้นประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และเขาว่ากันว่าการเปลี่ยนระลอกนี้ เป็นการเปลี่ยนกันที่รองหัวหน้าพรรค ที่จะไปคุมแม่ทัพใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้
ภาคใต้เป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์และการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 เสียหายไปเยอะได้มาแค่ 22 ที่นั่ง ปกติต้อง 40 ขึ้นไป เพราะฉะนั้นการปรับเปลี่ยนทั้งนี้จะนำไปสู่การได้ฐานเสียง
สองคนนี้จะทำให้เกมและการบัญชาการรบที่จะมีการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ เลือกทั้งคนเลือกทั้งพรรคแปรเปลี่ยนไป การประชุมใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ปี 2564 จะเป็นตัวชี้ชะตาจากการลงมติของบรรดาองค์ประชุม 467 คน โครงสร้างใหญ่ชี้ชะตา 70% ให้น้ำหนักกับส.ส.ปัจจุบัน ส่วนอีก 30% คืออื่นๆ
ขั้นตอนเลือกรองหัวหน้าพรรค
ตอนนี้ประชาธิปัตย์แนวคิดแบ่งออกเป็นสองขั้ว แนวคิดเก่า ส.ส. ในมือ 30-35% และกลุ่มแนวคิดใหม่ ส.ส.ในมือ 55-60% ในส่วนของแนวคิดที่ต่างกันสองขั้ว
แนวคิดเก่า
แนวคิดใหม่
ขุนพลภาคใต้
นี่คือแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์กำลังต่อสู้กันและจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงว่าด้วยการส่งขุนพลลงเลือกตั้ง รอบนี้ประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ แนวคิดจะเป็นอย่างไรวัดกันที่การลงมติ ในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ฝ่ายที่หนุนนายกชาย ฝ่ายที่กำกับอยู่ข้างหลังโดยเลขาธิการพรรคโดยคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน เดินหน้าเต็มสูบ
แต่ในขณะเดียวกันฝ่ายผู้คุมกฎก็กำลังออกบทบาทแอ็คติ้งบางอย่าง ที่พร้อมจะสกัดไม่ให้ดาวรุ่งเกิดขึ้นมา อาจจะกลายเป็นดาวร่วง
เพราะฉะนั้นจับตาการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันพรุ่งนี้แล้วจะรู้คำตอบว่าการลงมตินั้นประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ที่มา : เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ, วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร