จากกรณีเหตุการณ์ชุมนุมของผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่หละ ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยได้ก่อเหตุจราจล เผา และทำลายทรัพย์สินของราชการ ในพื้นที่พักพิงฯ หลังไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ตาก ที่ดูแลพื้นที่ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เข้าไปพูดคุยกับตัวแทนผู้หนีภัยในพื้นที่ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มีตัวแทนผู้ลี้ภัยบางส่วนได้เปิดเผยข้อมูลเพื่อที่จะให้เป็นสื่อกลางให้รัฐบาลไทยเข้ามาแก้ปัญหา
ผู้ลี้ภัยไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากชาวบ้านจะนำรถจักรยานยนต์ และตู้เย็นมาใช้ในพื้นที่ แล้วเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เข้าเพราะว่าต้องจ่ายเงินค่าผ่านทางก่อน เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อรถจักรยานยนต์ 1 คัน ส่วนตู้เย็น 1,000 บาท แต่ชาวบ้านไม่มีเงินจ่าย เจ้าหน้าที่จึงไม่ให้เข้า ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ จึงเกิดการกระทบกระทั่ง
เจ้าหน้าที่พยายามยกตู้เย็นลงจนทำให้ตู้เย็นตกพื้นพังเสียหาย ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้ชาวบ้าน จึงทำให้เกิดรวมตัวก่อจราจลขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อส.และผู้ดูแลศูนย์อพยพบ้านแม่หละ จะมีการเก็บส่วย หรือผลประโยชน์จากชาวบ้านมาโดยตลอด จึงทำให้ชาวบ้านทนไม่ไหว เหตุการณ์เลยปะทุขึ้นตามที่มีคลิปออกไป
ผู้ลี้ภัยคนเดิม เล่าว่า ในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เก็บส่วย และรีดไถผลประโยชน์จากชาวบ้านทุกเม็ด ไล่ตั้งแต่การเข้าออกหมู่บ้าน เวลาไปโรงพยาบาลหรือไปซื้อของมาขายในพื้นที่ ในช่วงปกติจะเก็บค่าออกใบผ่านเข้าออกจำนวนใบละ 200 บาท แต่มีโควิด-19 การเข้าออกเข้มงวดขึ้น มีการขึ้นราคาเป็น วันละ 1,000 บาท แต่ถ้าหากเหมารายเดือนจะอยู่ที่ 5,000 - 8,000 บาท ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถออกไปได้
นอกจากนี้ยังมีการเก็บหัวคิวพาชาวเมียนมาข้ามมาจากเมียนมา มาที่ศูนย์แห่งนี้ในราคาหัวละ 5,000 บาทอีกด้วย
โดยการดูแลผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ จะมีหัวหน้าใหญ่ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง ดูแลระบบทั้งหมด จะมีเจ้าหน้าที่อส. เป็นลูกมือรับคำสั่ง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อส.จะมาวางระบบ หาผู้ลี้ภัยไปเป็นพวกโดยแบ่งผลประโยชน์ให้ ให้ผู้ลี้ภัยภายใต้ปกครองเป็นคนเก็บส่วย ทั้งค่าไฟฟ้าที่แพงเกินจริง แม้กระทั่งจะเลี้ยงวัวหนึ่งตัวต้องจ่ายค่าส่วยตัวละ 1,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีการระบบการค้าภายในศูนย์ ที่ข้าราชการรายนี้ จะมีครอบครัวหนึ่งเป็นนายหน้าค้าขาย ตั้งร้านอยู่หน้าศูนย์ จะคอยควบคุมราคาสินค้า เจ้าหน้าที่อส. จะคอยกันไม่ให้สินค้าจากชาวบ้านมาขายได้ หากจะขายต้องจ่ายส่วย
ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ห้ามเข้าออกศูนย์ สินค้าจะมีการโก่งราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว เช่นเนื้อไก่ จากกิโลละ 35 บาท ขึ้นเป็น 90 - 100 บาท โดยข้าราชการรายนี้จะมีการแบ่งเงินกับร้านค้าดังกล่าว โดยทั้งหมดเป็นความอัดอั้นที่สะสมมาอย่างยาวนานหลายสิบปี
ผู้ลี้ภัยกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยต้องประสบกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องจากเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้แต่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ จึงอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไข และจัดการกับเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ ให้ออกไปจากพื้นที่แล้วมาพูดคุยกับชาวบ้าน ถึงการวางแนวทางการปกครองใหม่ หวังสื่อมวลชนเป็นสื่อกลาง ให้ความเป็นธรรมแก่พวกตนเองด้วย
ข่าว/ภาพ ศูนย์ข่าวภาคเหนือ