svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เศร้า “เสถียรธรรมสถาน” ออกแถลงการณ์แจ้ง “แม่ชีศันสนีย์” สิ้นชีวิต

07 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศิษย์เศร้า “เสถียรธรรมสถาน” ออกแถลงการณ์แจ้ง “แม่ชีศันสนีย์” สิ้นชีวิต คืนสู่ธรรมชาติ หลังป่วยจากอาการมะเร็งลุกลามระยะสุดท้าย

     ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (7 ธ.ค.) มูลนิธิเสถียรธรรมสถาน ได้ออกแถลงการณ์ (ฉบับที่ 1) แจ้งความคืบหน้าอาการป่วยของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ว่า มะเร็งได้เข้าสู่ระยะลุกลามจนเข้าสู่ระยะสุดท้าย โดยบรรดาลูกศิษย์ต่างพากันขอพรให้หายป่วยโดยเร็ว (อ่านรายละเอียด)

 

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

     ล่าสุดช่วงค่ำวันนี้ เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิเสถียรธรรมสถาน ได้ออกแถลงการณ์ (ฉบับที่ 2) แจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน โดยระบุว่า 

 

เศร้า “เสถียรธรรมสถาน” ออกแถลงการณ์แจ้ง “แม่ชีศันสนีย์” สิ้นชีวิต

แถลงการณ์ (ฉบับที่ 2)
แจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน

จากที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและเข้ารับการรักษาตั้งแต่พ.ศ.2560 โดยมีอาการดีขึ้นในช่วงปีแรกและตรวจพบก้อนมะเร็งอีกครั้งในกลางปี 2563 และเข้ารับการรักษาโดยคณะแพทย์อย่างเต็มความสามารถ

กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม พศ 2564 พบว่าอาการไม่ปกติ อ่อนเพลียมาก คณะผู้ดูแลจึงพาท่านเข้ารับการรักษาอีกครั้ง คณะแพทย์พบว่าก้อนมะเร็งได้ขยายขนาดและลุกลามอย่างมาก ผู้ดูแลจึงตัดสินใจพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถานตามปณิธานของท่านในวันที่ 6 ธันวาคม 

และคืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2564 เวลา 18.23 น สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน และนับเป็น 41 พรรษาบนมรรคาแห่งการตื่น

เสถียรธรรมสถานและคณะศิษยานุศิษย์ จึงขอประกาศแจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ให้ได้ทราบโดยทั่วกันด้วยความอาลัยยิ่ง สำหรับกำหนดการอื่นๆ จะได้แจ้งให้ทราบในวันถัดไป

มูลนิธิเสถียรธรรมสถาน
7 ธันวาคม  พ.ศ. 2564 

 

ซึ่งภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ บรรดาลูกศิษย์ของแม่ชีศันสนีย์  ได้เข้ามาโพสต์แสดงความอาลัย พร้อมระบุขอส่งแม่ชีศันสนีย์ คืนสู่ธรรมชาติและคืนสู่สวรรค์นิพพาน

 

เศร้า “เสถียรธรรมสถาน” ออกแถลงการณ์แจ้ง “แม่ชีศันสนีย์” สิ้นชีวิต

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลเพจเฟซบุ๊กเสถียรธรรมสถาน Sathira Dhammasathan

 

 

logoline