พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบสิทธิบ้านเช่าโครงการเคหะสุขประชาร่มเกล้า ให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบายของรัฐบาล บอกว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนจะมีที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นครอบครัวอบอุ่นมีความสุข แล้วจะได้มีโอกาสดูแลซึ่งกันและกัน วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอีกเยอะ นั่นคือการเตรียมความพร้อมของบ้านเมืองของเราไว้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งที่อยู่อาศัยคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่เนื่องจากยังมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ความเป็นธรรมก็คือรัฐบาลจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
นอกจากโครงการนี้ ความเท่าเทียมทางด้านโอกาสการใช้สาธารณูปโภคพื้นฐานต้องมี เช่น รถ ถนน สะพาน แต่ปัญหาหลายอย่างใช้งบประมาณสูงมากก็ไม่ได้ ต้องใช้ความร่วมมือหากทำให้ทุกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม สุจริตก็ทำไปได้ทุกอย่าง วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าทำงานไม่ได้หวังผลตอบแทน
"นอกจากรอยยิ้มของพวกท่าน และยังมีอีกหลายครอบครัวอีกหลายล้านคนรอที่จะยิ้มอยู่ สิ่งที่ทำในวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ที่ผ่านมาก็ได้สอบถามว่าโครงการจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร หากมีพื้นที่พอก็จะเป็นบ้านเดี่ยวพื้นที่เล็กก็จะเป็นขึ้นแนวสูง แต่จะต้องมีความสะดวกสบายให้ตอบสนองให้ได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่
สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนต้องมีอาชีพมีรายได้ด้วย เรื่องของการพัฒนาอาชีพสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่าจะต้องการอะไรอย่างไร นำใครมาสอน ใครมาแนะนำมีหน่วยงานที่บูรณาการได้อีกจำนวนมาก" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำ ถึงยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท 20 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2569 ซึ่งเป็นระยะเวลานาน คงอยู่ไม่ถึงจนครบ แต่ยืนยันว่า ตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งจะทำทุกโครงการให้ดีที่สุด
"วันนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นแต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะโควิด ก็ถือว่าบริหารจัดการได้ดีพอสมควร ในระดับที่เทียบกับต่างประเทศ ช่วยหางาน หาบ้าน มีอาชีพมีรายได้ มีความสุขความสุขก็จะเกิดขึ้นจากใจของตัวเอง และเกิดจากครอบครัวของเราเอง นั่นคือความสุขที่แท้จริง ความสุขที่หาไม่ได้จากที่อื่น ไม่มีใครรักเราเท่ากับครอบครัวของเราเอง และต้องแผ่ความรักไปยังคนอื่นด้วย สังคมก็จะดีขึ้น คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้น เรียนรู้มากขึ้น และต้องเรียนรู้ไปด้วยกันที่จะพัฒนาอาชีพรายได้ไปด้วยกัน เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไป และเราก็ต้องเตรียมอาชีพของเราเองให้สอดคล้องให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง"
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า "หมู่บ้านนี้ต้องรักกัน กำหนดไว้ซึ่งสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ กำหนดไว้ในหัวใจของทุกคน คงไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่รัฐบาลทำอย่างต่อเนื่อง และจะทำเพื่ออนาคตต่อไปด้วย"
ทั้งนี้ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่มเกล้าแขวงคลองสองต้นนุ่นเขตลาดกระบังกรุงเทพมหานคร
ประกอบด้วย
โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ
นอกจากนี้การเคหะแห่งชาติจะมีการก่อสร้างโครงการเคหะสุขประชาอีก 13 โครงการจำนวน 3,948 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี เชียงใหม่ ระยอง และสระบุรี
ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป