svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ช้างเฮ! WWF สำรวจความต้องการงาช้างของจีนลดลง หลังการแบนเมื่อปี 2560

03 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ WWF ร่วมกับองค์กรวิจัย GlobeScan จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวจีนในประเด็นการซื้อขายงาช้างประจำปี 2020 พบว่าลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่จีนประกาศแบนเมื่อปี 2564

3 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) และองค์กรวิจัย GlobeScan ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการค้างาช้างในประเทศจีนจากผู้คน 2,000 คน ใน 15 เมือง เป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน โดยแบบสำรวจประจำปีนี้เป็นการประเมินที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อการบริโภคงาช้าง อัตราการซื้อ และความตั้งใจที่จะซื้อ รวมถึงการตระหนักถึงการห้ามใช้งาช้างของจีนเมื่อเวลาผ่านไป

 

แฟ้มภาพ : รณรงค์หยุดค้างาช้าง

ผลสำรวจผู้บริโภคประจำปีเกี่ยวกับการค้างาช้างในประเทศจีนพบว่า ความต้องการงาช้างลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่จีนประกาศสั่งห้ามการค้างาช้างภายในประเทศเมื่อปี 2560 โดยปัจจุบันเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของระดับก่อนการออกประกาศห้ามค้างาช้าง ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคเพียง 18 เปอร์เซ็นต์ที่สำรวจตั้งใจที่จะซื้องาช้างในอนาคต ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 43 เปอร์เซ็นต์ก่อนการแบนของจีน

 

แฟ้มภาพ

ด้านนายเจษฎา ทวีกาญจน์ ผู้จัดการโครงการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฏหมาย ประจำภูมิภาคลุ่มน้ำโขง WWF Thailand เผยว่า ประเทศที่ยังซื้อขายงาช้างจากจีนเป็นประจำคือประเทศไทย ซึ่ง WWF ยังมีความจำเป็นต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อหยุดยั้งการซื้อขายงาช้างของนักท่องเที่ยวชาวจีน 

"โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเดินทางระหว่างประเทศ แต่เรายังคงมีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่า ชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการซื้อขายงาช้างมีการเปลี่ยนแปลง และตลาดการซื้อขายงาช้างที่ขับเคลื่อนโดยนักท่องเที่ยวต้องยุติลง"

  ช้างเฮ! WWF สำรวจความต้องการงาช้างของจีนลดลง หลังการแบนเมื่อปี 2560

 

อ้างอิง : https://globescan.com

logoline