“รอง อธ.อัยการ” จี้สอบ “แก๊ง 3 กุมาร” ถูกร้องรวมหัวบิดคดี

28 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงในฐานะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ส่งหนังสือสำนักงานคดีศาลเเขวง (22 พ.ย.)

เรื่องขอให้ชี้เเจงข้อเท็จจริง ถึงพนักงานอัยการเเขวง 4 (พระนครใต้) ว่า สำนักงานคดีศาลแขวงได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอัยการว่ามีผู้ยื่นหนังสือฉบับลงวันที่ 4ต.ค.64 

ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานอัยการแขวงพระนครใต้ว่ามีการกล่าวขานกันเป็นอย่างมากในวงการทนายความ พนักงานสอบสวน อัยการและประชาชนโดยมีการเรียกกันว่า“ แก๊ง3 กุมาร เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการแขวงพระนครใต้

ประกอบด้วย ข้าราชการอัยการ2 คน เเละนิติกร 1 คนซึ่งเป็นตัวประสานงานเรียกรับเงิน

ซึ่งทั้ง 3 คนจะมีการทำงานเป็นกระบวนการสำนวนใดมีทุนทรัพย์สูงนิติกรคนดังกล่าวจะเป็นคนชงเรื่องให้พนักงานอัยการทั้ง 2 คน เมื่อมีช่องอาจสั่งไม่ฟ้อง พนักงานอัยการทั้ง2 จะหาช่องว่างในการที่จะสั่งไม่ฟ้องโดยบางครั้ง เรียกพนักงานสอบสวนมาที่สำนักงานอัยการและมีผู้ต้องหาอยู่ด้วย

โดยจะให้พนักงานสอบสวนพิมพ์สอบเพิ่มตามที่อัยการสั่ง ตามเนื้อหาที่แต่งมาและเน้นย้ำว่าต้องเอาแบบนี้ เดี๋ยวจะทำหนังสือสอบเพิ่มไปให้ภายหลัง หรือเรียกพนักงานสอบสวนพร้อมหัวหน้างานสอบสวนมาพบที่สำนักงานอัยการและสอบปากคำในสำนวนคดี (เหมือนเป็นการข่มขู่ไปในตัว) และเมื่อเห็นช่องในการสั่งไม่ฟ้องก็จะให้ตัวชงคือนิติกร เป็นคนติดต่อกับฝ่ายผู้ต้องหาในการจ่ายเงิน เมื่อรับเงินแล้วก็สั่งสำนวนสั่งไม่ฟ้อง

ส่วนอีกกรณีคือหากมีทุนทรัพย์สูงและคดีมีแนวโน้มสั่งฟ้องก็จะเล่นแง่มุมกับฝ่ายผู้เสียหายโดยเรียกฝ่ายผู้ต้องหามาพบและตกลงราคากันโดยจะทำให้คดีขาดผัดฟ้อง เช่นเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาก็จะมีคำสั่งสอบเพิ่ม จิปาถะให้สอบไม่ทันเพื่อจะให้คดีขาดผัดฟ้องและเรียกรับเงินจากฝ่ายผู้ต้องหาเป็นต้น

ซึ่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายดังนั้นจึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านจัดทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ถูกกล่าวอ้างให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบภายในวันที่ 3 ธ.ค.64 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบันทึกข้อความดังกล่าว นายโกศลวัฒน์ เป็นผู้ลงนาม มีปั๊มคำว่าลับลงในบันทึกฯ เป็นการสอบข้อเท็จจริงจากการร้องเรียน