svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

28 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การเติบโตของ "Digital Currency" ได้รับการรองรับ จากทุกภาคธุรกิจต้องเข้าใจและทันเทรนด์ของโลกการเงินในอนาคต

อัพเดทเทรนด์ รับปี 2022 ปรับตัวให้ทันทุกโอกาส กับงานสัมมนาออนไลน์ "TRENDS : Driving the Future" ที่นำเสนอทิศทางของโอกาส ที่จะรอเราอยู่ในปี 2022 ในทุกๆ มิติ กับวิทยากรแถวหน้า ที่อัพเดททุกเรื่องที่คนทำงานและนักธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้ ต้องปรับ เพื่อรับโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้

 

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

 

งานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ "Trends Driving the Future" พบกับ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ซิปแม้กซ์ (ZIPMEX) ประเทศไทย กล่าวถึง สินทรัพย์ดิจิทอล Crypto Currency ปีนี้บิดคอยน์เกิดขึ้นเยอะมาก และคนเข้ามาในตลาดเยอะมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

 

ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทอล หรือ Crypto Currency เมื่อต้นปีมีอยู่ 250,000 บัญชี  ปัจจุบัน ตอนนี้อยู่ที่ 1,700,000  บัญชี  เพิ่งเติบโตมากกว่าบัญชีหุ้น 5-6 เท่า สถานะการตลาดในปัจจุบัน อยู่ที่ 2.5 ล้านล้าน USD  ตลาดมีการเติบโตอย่างมหาศาล

บิทคอยน์ครองตลาดสินทรัพย์ดิจิตอล เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ของตลาดอยู่ประมาณ 83% ปัจจุบันบิทคอยน์คลองตลาดอยู่แค่ 42% ซึ่งหายไปครึ่งนึง เพราะฉะนั้นปัจจุบันคนไม่ได้ลงทุนแค่บิทคอยน์อย่างเดียวเท่านั้น คนหันมาลงทุนในเหรียญอื่น ๆ เช่น เหรียญน้องหมา เหรียญชิบะ โดชคอยน์ เหรียญเกม จะเห็นได้ว่าเหรียญพวกนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก 

 

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

 

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีเหรียญต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เริ่มมีตลาดเกิดขึ้นกับเหรียญพวกนี้แล้ว การขายที่ไม่ผ่านคนกลาง สภาพคล่องมาจาก ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้น บนสินทรัพย์ของคุณ คุณจะได้ร้อยละ 0.3 หรือ 0.3%  มันเป็นการนำสินทรัพย์ของคุณไปทำงานได้ผลตอบแทน 

 

มีคนนำสินทรัพย์ดิจิตอล หรือ Crypto Currency ไปล็อก ในระบบ เพิ่มเติมอย่างมหาศาล ปลายปีที่แล้วมูลค่าอยู่ที่ 20,000,000,000 USD ปัจจุบันเพิ่มขึ้นไป 5 เท่า อยู่ที่ 100,000,000,000 USD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

เทรนด์ในอนาคตก็คือการหาผลตอบแทน ของคนที่อาจไม่ผ่านคนกลางแล้ว นี่คือชิ้นแรกที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เทรนด์ที่สองคือ ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือตลาดที่ซื้อขาย แพลตฟอร์มอย่างอื่นมากขึ้น ในอนาคตระบบพวกนี้  ก็จะรวดเร็วขึ้นและคุณอาจไม่ จำเป็นต้องยืนยันตัวตน แค่มี Wallet ในโทรศัพท์มือถือ คุณไม่ต้องอัพโหลดบัตรประชาชนหรืออะไรต่าง ๆ เลย และสภาพคล่องก็สูงมาก 

 

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

 ซึ่งเราจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเทรนด์แน่นอน ในเรื่องของ Decentralized เป็นการกระจายข้อมูลด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของข้อมูลทั้งหมด และไม่สามารถควบคุมหรือแก้ไขข้อมูลได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลทุกอย่างได้ด้วยตนเองอย่างเต็มที่และรวดเร็ว ผ่านระบบออนไลน์แบบ 100% เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถดำเนินการได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลกและไม่ผ่านตัวกลาง 

 

Decentralized Finance (DeFi) คือระบบการเงินแบบใหม่ ที่เมื่อเราทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ จะไม่ผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินเหมือนแต่ก่อน แต่จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแทน ซึ่งจะทำธุรกรรมทางการเงินได้เหมือนเดิมทุกอย่าง โดยไม่มีตัวกลาง ทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ และมีส่วนช่วยให้การดูและพัฒนาด้วย

 

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

 

อีกเทรนด์ที่เริ่มมาแรงก็คือในเรื่องของ NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token เป็นชื่อเรียกของ Cryptocurrency ประเภทหนึ่ง เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้ ต่อให้มีการ Coppy ไป แต่ต้นฉบับของจริงจะมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนโทเคน NFT ก็เป็นเหมือนโฉนด เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ชิ้นนี้

 

และอีกเทรนด์ที่เพิ่งเริ่มเกิดขึ้น เมื่อ ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คือการลงทุนในเหรียญเกม ซึ่งกำลังตึ่งตึ่งเข้าโลก เมตาเวิร์ส (Metaverse) โลกของสินทรัพย์ดิจิตอลหรือ Cryptocurrency จะเห็นได้ว่าคนเริ่มเข้ามา ในโลกออนไลน์ตรงนี้มากยิ่งขึ้น ทำให้ราคามูลค่าของเหรียญ SANDBOX ขึ้นไปถึงกว่า 2000% ในไม่กี่เดือน เราจะเห็น Community พวกนี้ เกิดมากขึ้นในอนาคต 

 

The Future of Financial System หลักการที่นักลงทุนควรรู้

 

ในอนาคตคนจะเข้ามาอยู่ในโลกเมตาเวิร์ส (Metaverse) มากยิ่งขึ้น ปีหน้าเป็นโลกของเกมและ เมตาเวิร์ส (Metaverse) อย่างแน่นอน 

 

หลักการที่นักลงทุนควรรู้

  • DCA Dollar Cost Average การลงทุนเป็นงวดงวดเพื่อเฉลี่ยต้นทุน เหมือนการออมเงินแบบที่สามารถกำหนดจำนวนเองได้อย่างสม่ำเสมอ 
  • Diversification vs All In การลงทุนในหลายหลายเหรียญเพื่อกระจายความเสี่ยง / การลงทุนในเหรียญเดียวทั้งหมด 
  • Asset Allocation การจัดสรรเงินทุนสำหรับการลงทุนในประเภทสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน เพื่อกระจายความเสี่ยง 
  • Buy and Hold การซื้อทรัพย์สินแล้วถือครองไว้ยาว ๆ ไม่มีการขายออกเพื่อทำกำไร ในระยะสั้น
logoline