เกาหลีเหนือสั่งประหารคนลอบนำเข้า Squid Game
เกาหลีเหนือเอาจริง สั่งประหารชีวิตชายคนหนึ่ง ที่ลักลอบนำ "ก๊อบปี้" ซีรีส์ดัง "Squid Game" ของ Netflix เข้าประเทศ หลังมีนักเรียนมัธยม 7 คน ถูกจับได้ว่าแอบดูซีรีส์เรื่องนี้ และหนึ่งในนี้ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ที่เหลือถูกส่งไปใช้แรงงานหนัก 5 ปี
Radio Free Asia (RFA) รายงานว่า ชายชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต หลังจากนักเรียนมัธยม 7 คน ถูกจับได้ว่าแอบดู "Squid Game" ซีรีส์ดังของเกาหลีใต้ที่ฉายทาง Netflix ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่าพ่อแม่ที่มีฐานะระดับเศรษฐี สามารถติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อลดหย่อนโทษให้ลูกๆ ของตัวเองได้
แหล่งข่าวระบุว่า นักเรียนที่ซื้อแฟลชไดรฟ์ที่โหลดซีรีส์เรื่องนี้ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพื่อนอีก 6 คน ถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนัก 5 ปี ส่วนครูและผู้บริหารโรงเรียนถูกไล่ออกและถูกเนรเทศ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะยังมีการสืบสวนขยายผลที่จะเผยตัวคนที่จะโดนลงโทษเพิ่ม
ท่ามกลางความวิตกของคนที่รู้ข่าว เพราะเชื่อว่านักเรียนทั้ง 7 จะถูกสอบนสวนอย่างไร้ความปรานี จนกว่าจะได้คำตอบว่าซีรีส์เรื่องนี้ถูกลับลอบนำเข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อชายแดนถูกปิดเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหมายความว่าเด็กแต่ละคนที่ถูกสอบสวนที่หนักหน่วงและยาวนานจนกว่าจะบอกว่า พวกเขาได้รับแฟลชไดร์ฟมาจากที่ไหนและแบ่งปันกับใครบ้าง
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า รัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้มาก โดยมองว่า การศึกษาถูกละเลย ซึ่งคณะกรรมการกลางได้ปลดครูใหญ่ เลขานุการเยาวชนและครูประจำชั้น ทั้งยังขับออกจากพรรคฯ ถูกเนรเทศไปทำงานในเหมืองถ่านหิน หรือไม่ก็ไปอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล ขณะที่ครูโรงเรียนอื่นพากันอกสั่นขวัญแขวนเพราะกลัวจะเจอเข้ากับตัวเอง
ตำรวจยังเริ่มสำรวจตลาดอุปกรณ์จัดเก็บหน่วยความจำและ CD เพื่อดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมจากสื่อต่างชาติหรือไม่ แต่ท่ามกลางความหวาดกลัวก็มีข่าวลือว่า นักเรียนที่ถูกจับ 7 คน 1ในจำนวนนี้มีคนหนึ่งที่พ่อแม่มีฐานะระดับเศรษฐี และติดสินบนเจ้าหน้าที่ 3,000 ดอลลาร์ (1 แสนบาท) เพื่อให้ลูกรอดจากการถูกลงโทษ เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้สาธารณชนที่บอกว่าโลกไม่ยุติธรรม ถ้าพ่อแม่มีเงินมีอำนาจแม้ว่าลูกจะถูกตัดสินประหารชีวิตก็ยังรอดได้!!
