นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เกษียณอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว สามารถขอรับสิทธิเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญกรณีชราภาพ ตามเงื่อนไข และระยะเวลาในการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพที่ตนเองออมไว้
เงินบำเหน็จชราภาพ (จ่ายก้อนเดียวจบ)
เงินบำนาญชราภาพ (จ่ายเงินทุกเดือน)
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่มีอายุเกิน 55 ปี ซึ่งยังคงมีนายจ้าง ที่ยังคงจ่ายเงินสมทบ เข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน และขอรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญกรณีชราภาพตามเงื่อนไขของผู้ประกันตนแต่ละคนทั้งนี้ การเพิ่มระยะเวลาการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพจะยิ่งทำให้เงินออมที่สะสมในวัยเกษียณเพิ่มมากขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับการยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนกรณี ชราภาพ ผู้ประกันตนสามารถดาวน์โหลดแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01) ได้ที่ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มช่องทางการให้บริการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพผ่าน บริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการรับเงิน ทางอิเล็กทรอนิกซ์ได้อย่างรวดเร็ว มีความโปร่งใส ลดความผิดพลาด
ขั้นตอนยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพมีดังนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวกได้ทุกแห่งในวันและเวลาราชการ หรือทางเฟซบุ๊ก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน