23 พฤศจิกายน 2564 นายไตรรัตน์ ณ. พัทลุง พ่อ นางสาวกิรัติมา ณ พัทลุง น้องสาว นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ ไฮโซแบงค์ เจ้าแม่วงการเสริมความงาม เจ้าของธุรกิจความงามชื่อดัง ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ซึ่งกระแสข่าวระบุว่า เป็นการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ที่เจ้าตัวป่วยอยู่ ในวัย 51 ปี ขณะที่ตำรวจได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่าเป็นการ "ฆ่าตัวตาย" พร้อมนายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี
นางสาวกิรัติมา กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ที่ต้องเดินทางมาในวันนี้เพราะเหตุเกิดผ่านมานานกว่า 80 วัน แล้วแต่ทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไม่มีการแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีใดๆ กับทางครอบครัว ทั้งยังไม่เคยมีการเรียกสอบครอบครัวของผู้ตาย มีเพียงการเรียกสอบ สามี และแม่บ้าน ที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุเท่านั้น ส่วนพ่อแม่และน้องสาว ไม่เคยถูกเรียกสอบแต่อย่างใด
เรื่องการฆ่าตัวตายทางครอบครัวไม่เชื่อว่า พี่สาวจะเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพราะพี่สาวเป็นนักสู้ เป็นคนเข้มแข็ง มองโลกในแง่บวก ธุรกิจที่ทำอยู่ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาหนี้สิน และแม้ว่าพี่สาวจะมีอาการป่วยหนักที่ต้องรักษาตัวแต่ก็อยู่ในขั้นตอนการรักษาด้วยเคมีบำบัด (คีโม) ใกล้ครบขั้นตอนการรักษาแล้ว ซึ่งตัวพี่สาวเองก็ไม่ได้มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ว่าจะมีการก่อเหตุฆ่าตัวตาย ประกอบกับทางครอบครัวมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเวลาการตายที่ระบุในเอกสารใบมรณบัตร ที่มีการลงเวลาไว้ 20.45 น. ทั้งๆที่ทางครอบครัวทราบเรื่องจากทางบ้านพี่สาวว่ามีการพบศพพี่สาวเสียชีวิตในห้องน้ำประมาณ 19.30 น. จึงเกิดข้อสงสัยเกี่ยวช่วงเวลาที่คลาดเคลื่อน
และอีกประเด็นคือ เรื่องของอาวุธที่ใช้ ตอนแรกมีการระบุว่า มีการใช้อาวุธมีดทำครัวในการก่อเหตุ แต่ภายหลังมีการระบุว่าใช้คัตเตอร์ ซึ่งในวันนี้ได้นำเอกสารหลักฐานใบรับรองการตายที่มีการระบุว่าพี่สาว เสียชีวิตจากการสำลักเลือดจากบาดแผลถูกของมีคมบริเวณลำคอ มาแสดงต่อพนักงานสอบสวน
ด้านพ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คดีดังกล่าวล่าช้าเกินไป นับตั้งแต่การเสียชีวิต ผ่านมากว่า 80 วัน ครอบครัวรอที่จะให้ข้อมูลกับทางตำรวจมาตลอด แต่ไม่มีการเรียกมาสอบถามแต่อย่างใด
ภายหลังจะเข้าพบพนักงานสอบสวน นายเกรียงศักดิ์ ทนายความ กล่าวว่า เรื่องสำนวนยังต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานที่ทางตำรวจส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ ซึ่งตามขั้นตอนปกติจะมีการแจ้งผลภายใน 60 วันหลังจากส่งตรวจพิสูจน์ แต่สามารถยื่นขอเลื่อนการส่งผลได้รอบละ 30 วัน จึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตได้
หลังจากที่ครอบครัวได้ทราบความคืบหน้าบ้างเล็กน้อย ก็มีความสบายใจมากขึ้น และต่อจากนี้ทราบว่าจะมีการเรียกสอบครอบครัวเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินและมรดกของผู้เสียชีวิต ต่อจากนี้ทางครอบครัวจะมีการยื่นขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก แม้ว่า ผู้ตายจะจดทะเบียนสมรสกับทางสามีแต่ผู้ตายไม่มีบุตร ทำให้ทายาทลำดับขั้นมีพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตรวมถึงสามีจึงต้องมีการร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อแบ่งมรดก ที่ขณะนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วนคือสินส่วนตัวและสินสมรส ซึ่งคาดว่าจะมีการยื่นขอให้ศาลพิจารณา ตั้งนางสาวกิรัติมา เป็นผู้จัดการมรดก
นางสาวกิรัติมา กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ประเด็นที่ทางครอบครัวต้องรอถึง 80 วัน ถึงมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวการฆ่าตัวตายยืนยันว่า ทางครอบครัวมีการสงสัยตั้งแต่วันแรก แต่รอเวลาให้ทางตำรวจดำเนินการและรอให้ทางตำรวจเรียกเข้าให้ปากคำ แต่ทางตำรวจไม่มีการเรียกเข้าให้ปากคำ จึงมีการส่งหนังสือเพื่อขอเข้าพบในวันนี้
สำหรับตัวสามีของพี่สาว ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ค่อยได้มีการพูดคุยมากนัก และโดยส่วนตัวจะพบสามีของพี่สาวตามช่วงโอกาสสำคัญของทางครอบครัวเท่านั้น และทราบว่าในวันเกิดเหตุ สามีของพี่สาวเป็นผู้แจ้งคนแรกว่า พบศพพี่สาวเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ แต่ไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุภายในบ้านมีใครอยู่บ้าง
ทางครอบครัวยังยืนยันว่ายังไม่มีการสงสัยบุคคลใดเป็นพิเศษ โดยจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวนและพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด
ด้านพันตำรวจเอกดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เรื่องสำนวนการสอบสวนผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนได้สอบพยานที่เกี่ยวข้องและพยานในที่เกิดเหตุ คือ แม่บ้าน, สามีผู้เสียชีวิต และได้สอบพยานแวดล้อมอื่นๆ แล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีนี้ได้ เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ หากครอบครัวผู้เสียชีวิตติดใจสาเหตุการตาย หรือมีพยานหลักฐานใหม่ ก็สามารถนำมาร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือนำมาให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณาได้ ซึ่งตำรวจยินดีที่จะสอบสวนให้ละเอียดขึ้น หากพบว่ามีพยานหลักฐานใหม่ที่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ก็พร้อมจะสอบสวนจนกว่าจะหมดข้อสงสัย เพื่อสรุปสำนวนและสาเหตุการตายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป