svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กกพ.สุดอั้น! ขึ้นค่า FT ดันค่าไฟพุ่ง 3.78 บาท/หน่วย

19 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บอร์ด กกพ. มีมติขึ้นค่าเอฟทีหลังราคาพลังงานโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและเงินบาทอ่อนค่า โดยจะปรับแบบขั้นบันได เริ่มงวดแรกเดือนม.ค.-เม.ย. 65 เพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์ ดันค่าไฟฟ้าเพิ่มเป็น 3.78 บาท/หน่วย

กกพ.สุดอั้น! ขึ้นค่า FT ดันค่าไฟพุ่ง 3.78 บาท/หน่วย

เลขาธิการและโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. คมกฤช ตันตระวาณิชย์ ระบุ คณะกรรมการ กกพ. มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนมกราคม – เมษายน 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 4.63% จากงวดปัจจุบัน
สาเหตุของการปรับค่าเอฟทีเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่า การนำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากต่างประเทศในส่วนของพลังน้ำลดลงตามฤดูกาล และการผลิตไฟฟ้าจากถ่านลิกไนต์ลดลงตามแผนปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ส่งผลให้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนราคาถูกลดลง

กกพ.สุดอั้น! ขึ้นค่า FT ดันค่าไฟพุ่ง 3.78 บาท/หน่วย
นอกจากนั้นราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นมากตามภาวะราคาน้ำมันขาขึ้นในตลาดโลก และปริมาณนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ที่มากขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ลดลงเนื่องจากเป็นช่วงปลายสัมปทาน
 


            ที่ผ่านมา กกพ.ได้ดำเนินนโยบายบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพให้ประชาชนผู้ใช้พลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการการลดค่าไฟฟ้า และตรึงค่าเอฟทีอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี จนถึงขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เบาบางลง ทำให้เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศเริ่มฟื้นตัว
ประกอบกับสถานการณ์วิกฤตพลังงานในต่างประเทศ ซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวส่งผลให้เกิดภาวะพลังงานตึงตัว เนื่องจากความต้องการใช้พลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นมาก จึงเป็นเหตุให้ค่าเอฟทีในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 48.01 สตางค์   


  กกพ.สุดอั้น! ขึ้นค่า FT ดันค่าไฟพุ่ง 3.78 บาท/หน่วย
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กกพ. ได้พิจารณานำเงินบริหารจัดการค่าเอฟที และเงินเรียกคืนฐานะการเงินจากการไฟฟ้าที่มีอยู่ทั้งหมดมาลดผลกระทบของการปรับค่าเอฟทีครั้งนี้กว่า 5,129 ล้านบาท และนำเงินผลประโยชน์ของบัญชีเงินที่จ่ายค่าก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าตามปริมาณก๊าซตามสัญญาไปก่อนของแหล่งก๊าซธรรมชาติเมียนมาอีก 13,511 ล้านบาท รวมเป็นเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบการปรับขึ้นค่าเอฟทีทั้งหมด 18,640 ล้านบาท
กกพ.ได้ลดผลกระทบโดยทยอยปรับเพิ่มค่าเอฟทีแบบขั้นบันได โดยงวดเดือนมกราคม- เมษายน 2565 จะเพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์ จากปัจจุบัน -15.32 สตางค์ในงวดก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยปรับปรุงตามค่าจริงในรอบต่อๆ ไป
 

logoline