svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบ.ตร.รับมีเจ้าหน้าที่เข้าข่ายถูกสอบทางวินัย คดีเสี่ยโจ้น้ำมัน

17 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผบ.ตร. รับมีเจ้าหน้าที่เข้าข่ายถูกสอบข้อเท็จจริงวินัย กรณีหมายจับ“เสี่ยโจ้ น้ำมัน” รอให้ทางจเรตำรวจพิจารณาส่งรายชื่อ แจงมีการส่งหมายตามศาลชี้แจง พร้อมสั่งเร่งรัด 3 สำนวน ตรวจสอบเพิ่ม หลังสอบสวนเสร็จแล้ว 11 คดี ระบุข้อบกพร่องเป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน

17 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหมายจับของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หายไปสารบบ ว่า เท่าที่ทราบจากศปก.ตร.เมื่อคืนนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้รายงานมาแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตนได้เรียกเข้ามาสอบถาม เรื่องที่ให้ภาค 9 รายงานกรณีได้รับหรือไม่ได้รับหมาย ทางศูนย์ปฏิบัติการที่ได้ออกวิทยุสั่งไปในนามของผมจะประมวลเสนอผ่านจเรตำรวจแห่งชาติขึ้นมา

ผบ.ตร.รับมีเจ้าหน้าที่เข้าข่ายถูกสอบทางวินัย คดีเสี่ยโจ้น้ำมัน

“เบื้องต้นจากการพูดคุยกันอาจมีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ซึ่งทางจเรตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาประมวลเสนอมาว่ามีใครบ้าง ในชั้นต้นเชื่อว่ามีการส่งหมายเป็นไปตามศาลได้ชี้แจงจริง และมีเจ้าหน้าที่รับไว้ แต่จะดำเนินการเป็นไปตามระเบียบหรือไม่อย่างไรเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ต้องสอบวินัยกันไป”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ได้สั่งให้สำนักงานกฎหมายและคดี ไปสำรวจมาว่าคดีที่นายสหชัยเข้าไปเกี่ยวข้องมีกี่เรื่อง ซึ่งรายงานอย่างไม่เป็นทางการที่ได้พูดคุยในเบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 14 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 11 คดี อีก 3 เรื่อง คือ 1.การสั่งสอบเพิ่มเติมเรื่องการค้าน้ำมันหมื่นกว่ารายการ ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากนี้จะไปเร่งรัดว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ทั้งนี้เข้าใจว่ามีรายละเอียดเยอะกว่าหนึ่งหมื่นรายการ ได้ทำไปถึงไหนแล้ว ติดปัญหาอะไรบ้าง

ผบ.ตร.รับมีเจ้าหน้าที่เข้าข่ายถูกสอบทางวินัย คดีเสี่ยโจ้น้ำมัน

 2.เรื่องการฟอกเงินซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และเรื่องการสั่งไม่ฟ้องส่งมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ โดยวันที่ 11 พฤศจิกายน ทางพล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบ.ตร. ก็ได้มีความเห็นแย้งไป 3. คดีที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพราะฉะนั้น 3 สำนวนที่เราตรวจสอบถึงวันนี้ ส่วนอีก 11 เรื่องเสร็จไปแล้ว ส่วนหมายจับที่ยังใช้ได้คือหมายจับของศาลอุทธรณ์จังหวัดปัตตานีที่บังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่สั่งจำคุก 1 ปี 9 เดือน ก็ต้องไปติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ จะไปไหนก็ต้องติดตามจับ

“ก็อยากให้เข้าใจว่าคนที่บกพร่อง ก็เป็นการบกพร่องโดยตัวบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ใช่ภาพรวมของตำรวจ จะเห็นว่าเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งใจที่จะทำให้มันกระจ่าง เพราะว่าตอนนี้เราปราบปรามน้ำมันเถื่อน เราก็จับมาโดยตลอด ใครที่เกี่ยวข้องจะเป็นอดีตเก่าอะไรแค่ไหนเราก็จับ เรื่องที่ผ่านๆ มาจะกี่ปีกี่ชาติก็ต้องไปรื้อมาดูให้เรียบร้อย ผมรับปากว่าจะทำให้เรียบร้อยจะเป็นอดีตไหนไม่รู้ ก็ต้องทำให้เรียบร้อยให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ใครผิดก็ลงโทษไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร

 

รายละเอียดก็บอกไปแล้วว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องลงไปและให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนเป็นครั้งคราว อย่าให้ไปวิจารณ์กันเอาเอง เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด เชื่อว่าในวันพฤหัสบดีที่ 18 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีรายละเอียดแถลงให้สื่อมวลชนทราบ” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

logoline