วันที่ 17 พ.ย.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) โดย พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,524 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 2,037,224 ราย หายป่วย 7,191 ราย หายป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 1,925,643 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 91,382 ราย อาการหนัก 1,739 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 407 ราย เสียชีวิต 56 ราย เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 20,199 ราย
ฉีดวัคซีนแล้ว สะสมรวม 86,071,507 โดส เพิ่มขึ้น 659,381 โดส เข็มแรกสะสมรวม 45,700,036 ราย คิดเป็น 63.4% เข็มสองสะสมรวม 37,527,295 ราย คิดเป็น 52.1% และเข็มสามสะสมรวม 2,884,176 ราย คิดเป็น 3.9% เมื่อไปสำรวจพบว่า ยังมีคนไทยไม่รับวัคซีนเลยอีก 11 ล้านคน ต้องขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ เร่งรัดการฉีดวัคซีนพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง
จากการพิจารณา 10 จังหวัด คือ ตาก ราชบุรี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้รับมาฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดเสี่ยงป่วย ไม่ให้มีอาการหนัก ลดโอกาสเสียชีวิต ค่าเฉลี่ยความครอบคลุมรับวัคซีนเข็มแรกของ 10 จังหวัดนี้ อยู่ที่ 56.6% ดังนั้นจึงขอให้มารับการฉีด ถึงแม้จะมีการระบาดหลักสิบหรือหลักร้อยต่อวันก็ตาม
กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่ต้องเร่งรัดมาฉีดเพิ่มขึ้นคือ หญิงตั้งครรภ์ วันนี้รายงานฉีดเข็มแรกได้ 17.7% ดังนั้น ถ้าตั้งครรภ์แล้วไปฝากครรภ์สามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนได้จากที่ฝากครรภ์ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล สถานพยาบาล โดยอายุครรภ์ที่เหมาะสมคือมากกว่า 12 สัปดาห์
ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ยังได้หารือเรื่อง การคีย์ข้อมูลเข้าระบบเรื่องการฉีดวัควีน มีประชาชนจำนวนมากไปรับวัคซีนแล้วแต่ไม่ขึ้นในระบบ หรือมีประวัติการฉีดวัคซีนไม่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนแจ้งจุดที่ไปรับวัคซีนให้ลงข้อมูลและแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในภายหน้า หากต้องไปแสดงผลฉีดวัคซีนเมื่อไปใช้บริการสถานที่ต่างๆ เช่น ขึ้นเครื่องบิน เดินทางข้ามพื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูจะได้แสดงได้ว่าฉีวัคซีนไปแล้ว
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 10 อันดับสูงสุด ดังนี้