16 พฤศจิกายน 2564 หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 และประกอบอาชีพขับรถ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
ล่าสุดข้อมูลเมื่อวันที่ 14 พ.ย.มียอดลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 10,789 ราย แบ่งเป็น ผู้ขับรถแท็กซี่ จำนวน 5,921 ราย และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 4,868 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ตรวจสอบแล้วว่ามีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 7,017 ราย และรอผลการตรวจสอบประมาณ 3,772 ราย
โดยผู้ที่ได้รับสิทธิจะได้รับการโอนเงินรอบแรกในวันนี้ (16 พ.ย.) ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสารการลงทะเบียน สำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ในกรณีรถเช่าขับ กรมการขนส่งทางบก จะตรวจสอบข้อมูล จากผู้ให้เช่าก่อนพิจารณาว่า เข้าเงื่อนไขเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ และจะกำหนดวันสำหรับโอนรอบที่ 2 ต่อไป
สำหรับผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคลที่ประกอบอาชีพใน 13 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 และฉบับที่ 28 ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 10,000 บาทต่อคน
ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ประกอบอาชีพใน 16 จังหวัด ตามข้อกำหนดฉบับที่ 30 กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทต่อคน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง