"จุรินทร์ ยันเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกร ปัดเคลียร์ใจ "สันติ"

15 พฤศจิกายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองวิพากษ์วิจารณ์โครงการประกันรายได้เกษตรกร ว่า ตนไม่รู้สึกหวั่นไหว เพราะมั่นใจว่าแม้จะเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็เป็นนโยบายที่มีความปรารถนาดีต่อการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เกษตรกรมีหลักประกันในเรื่องของรายได้ในการปลูกพืชที่ประกัน ถ้าเกษตรกรตั้งใจผลิตพืชผลทางการเกษตร ทั้ง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานแล้ว จะมีหลักประกันในเรื่องของรายได้ตามรายได้ที่ประกันแน่นอน แม้ว่าพืชผลเกษตรตัวนั้นในบางช่วงราคาอาจจะตกต่ำลงไป แต่ก็จะมีเงินส่วนต่างเข้าไปช่วยชดเชย ทำให้มีรายได้ตามรายได้ที่ประกัน 

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ตนบอกว่าไม่หวั่นไหว เพราะวันนี้ได้ผลักดันนโยบายประกันรายได้ประสบความสำเร็จ และปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรมมาจนกระทั่งเข้าปีที่ 3 แล้ว และได้ผลักดันจนกระทั่งประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว พร้อมทั้งได้แถลงต่อรัฐสภาผูกพันคนทั้งประเทศไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนที่เป็นรัฐบาลทุกคนจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนผลักดันให้ประสบความสำเร็จต่อไป ยกเว้นว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล แล้วรัฐบาลใหม่ก็ไม่มีความประสงค์จะทำประกันรายได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ หรือชุดต่อๆ ไป แต่ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้ และยังมีพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในรัฐบาล ตนก็ยืนยันว่า ต้องขับเคลื่อนผลักดันประกันรายได้เกษตรกรต่อไป 

ทั้งนี้ไม่ใช่ด้วยเหตุผลเพราะว่าเป็นนโยบายประชาธิปัตย์ ก็จะต้องกดดันให้ทุกคนต้องทำตาม แต่เป็นข้อตกลง เงื่อนไขตั้งแต่ก่อนร่วมรัฐบาลแล้วว่า ถ้าจะให้ประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลก็จะต้องนำนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของประชาธิปัตย์ไปเป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งวันนี้ก็กลายเป็นนโยบายของรัฐบาลไปแล้ว และรัฐบาลนี้ก็จะต้องทำต่อไปจนกระทั่งหมดวาระรัฐบาล หรือหมดอายุขัยของรัฐบาล ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่า สิ่งที่แถลงต่อรัฐสภาก็ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น รัฐบาลก็จะเกิดความเสียหายทางการเมืองด้วย และเกษตรกรก็จะพลอยเสียหายไปด้วย เพราะไม่ได้รับผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่ควรจะเป็น

ส่วนเรื่องนี้จะมีการเคลียร์ใจกับ กลับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากคนข้างนอกมองว่าเป็นความขัดแย้งในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้น  นายจุรินทร์ ระบุว่า ตนไม่ขัดแย้งกับใคร ใครจะมีความเห็นอย่างไรนั้นก็สุดแล้วแต่ แต่ตนมีหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องขับเคลื่อนผลักดันนโยบายประกันรายได้ เพราะอย่างน้อยที่อยู่ในความดูแลกระทรวงพาณิชย์ก็มี 4 ตัว ข้าว มัน ปาล์ม ข้าวโพด ส่วนยางก็กระทรวงเกษตร เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ 

พร้อมย้ำว่า ใครจะพูดอย่างไรตนไม่หวั่นไหว แล้วก็ไม่ไขว้เขว และ มั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำและภารกิจที่มี ในฐานะที่เป็นรัฐบาล และต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา ต้องรับผิดชอบต่อคนไทยและเกษตรกรทั้งประเทศ

สำหรับเรื่องนี้จะเป็นขบวนการดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เนื่องจากพรรคมีกระแสนิยมที่มาแรง  นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนทำนี้ไม่ได้หวังว่ามันจะต้องเป็นเรื่องความนิยม หรือไม่เป็นความนิยม ตนทำเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เมื่อมีหน้าที่แล้ว ต้องทำสุดความสามารถ ไม่อย่างนั้นถ้ามีหน้าที่แล้วไม่ทำ ก็เสียเวลาประเทศ เสียเวลาที่เกษตรกรจะได้รับ จากคนที่มุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่เปล่าๆ เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาสทำแล้วต้องทำให้เต็มกำลังความสามารถ 

ตนจึงย้ำมาเสมอว่ายุคนี้เป็นยุคที่ประชาธิปัตย์เน้นการทำงาน เน้นผลสัมฤทธิ์ของงาน เน้นการทำหน้าที่ ทำได้ไวทำได้จริง และเราก็จะเดินหน้าต่อไป ไม่หวั่นไหวอะไร