ช่วงฤดูหนาวทุกปี มักเกิดปัญหาผู้คนจำนวนมากรับผลกระทบจากกลิ่นของดอกต้นตีนเป็ด ที่มีการปลูกจำนวนมาก บางรายถึงขั้นหมดสติหลังได้กลิ่นของดอกต้นไม้ชนิดนี้ หลายแห่งเกิดปัญหาจนมีการร้องเรียนให้มีการตัดทิ้งกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทางภาคราชการยังคงระบุว่า ต้นตีนเป็ดนั้นมีประโยชน์เพราะสามารถผลิตออกซิเจนและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมวอนประชาชนอย่างตัดทิ้งหากต้องการกำจัดให้ติดต่อทางกรมป่าไม้ (อ่านรายละเอียด)
ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐปิ๊งไอเดียการใช้ประโยชน์จากดอกต้นตีนเป็ดได้แล้ว โดย นายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศรับซื้อดอกตีนเป็ดแบบสดราคากิโลกรัมละ 1 บาท และดอกตีนเป็ดแบบแห้ง ราคากิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลรบกวนชาวบ้าน จนทำให้บางคนเริ่มมีปัญหาสุขภาพ
โดยจะนำไปทดลองทำเป็นชาดอกตีนเป็ด ใช้ชื่อว่า “The Devil’s Tea” ชงดื่มแล้วมีรสชาติหวานพอดี มีกลิ่นหอมแบบสมุนไพร ซึ่งนอกจากลดมลภาวะทางกลิ่น ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าและพัฒนาให้ดอกตีนเป็ดเป็นสมุนไพรรักษาโรคอีกด้วย
จากการหาข้อมูลร่วมกับ ผศ.ดร.ยุวลี อันพาพรม และ รศ.ดร.ราเมศปราบู รามาราช จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่ามีองค์ประกอบทางเคมีจากสารสกัดจากดอกตีนเป็ดมากถึง 34 ชนิด ในจำนวนนี้มีสารเคมีที่เรียกว่า Linalool (ลินาลูล) มากที่สุดถึง 37 เปอร์เซ็นต์ เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานต่อความเครียด ช่วยคลายความวิตกกังวล มีคุณสมบัติคล้ายกัญชา มีฤทธิ์ระงับปวด ช่วยให้หลับ
รองลงมาคือสารอัลฟาเทอร์พินอยด์ เป็นสารที่แสดงผลต้านอนุมูลอิสระ เป็นยาฆ่าเชื้อโรค มีอยู่ในน้ำมันสกัดจากพืชหลายชนิด ทำหน้าที่เป็น antihypernociception และต้านการอักเสบ และ ยังพบสาร Antioxidant อีกหลายตัวที่มีประโยชน์ที่สามารถสกัดจากดอกตีนเป็ด นำมาใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายได้อีกด้วย หลังจากนี้จะได้นำไปพัฒนาต่อยอดและส่งเสริมสร้างอาชีพให้กับชุมชนในอนาคต