svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

13 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่ – ภาค5 แถลงเข้าช่วยเหลือชาวไทยถูกหลอกไปทำงานSeammerในสปป.ลาว แถมบังคับให้หลอกลวงคนไทยเข้าลงทุนการเงินดิจิทัล ล่าสุด จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ แต่ยังปฎิเสธ เตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายเพิ่ม เตือนคนไทยตรวจสอบข้อมูลก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

          เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ตัดแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลวง ชักจูงให้คนไทยไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านโดยบังคับให้ทำงานเกี่ยวกับSeammer โดยมีพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมแถลงข่าว

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

           พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านได้พบเบาะแสว่ามีขบวนการลักลอบพาคนไทยไปบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนภาค 5 เจ้าหน้าที่ในสังกัด ภ.จว.เชียงราย และ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข่าวเชิงลึก เพื่อทำการจับกุมและขยายผลเครือข่าย จนได้เบาะแสผู้กระทำความผิด

             สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีชายไทยติดต่อขอความช่วยเหลือมายังกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากติดอยู่ในสปป.ลาว ไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้ และถูกบังคับให้ทำงานเกี่ยวกับ Seammer ด้วยการหลอกลวงคนไทย ที่อยู่ในประเทศไทยให้เข้าลงทุนในธุรกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการช่วยเหลือและเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองชายไทยคนดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปทำงานในสปป.ลาว ได้รับผลกระทบจากโควิด 19  ทำให้ตกลงานและได้หางานกระทั่งไปรู้จักกับผู้ต้องหาหญิงสาวอายุ 25 ปีผ่านแอฟพลิเคชั่นมีการพูดคุยกันจนสนิทโดยผู้ต้องหารรับปากว่าจะหางานทำให้โดยไปทำงานที่ประเทศลาว เป็นการทำงานแลกเงินตราต่างประเทศและเทรดหุ้นบิทคอยน์ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและตกลงไปทำงานด้วยเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2564

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

             ทั้งนี้ ได้เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติและมีเรือมารับกลางแม่น้ำโขงก่อนที่จะมีคนมารับไปทำงานต่อที่บริษัท ซึ่งเป็นตึกย่านคาสิโนคิงส์โรมัน ตำบลบ่อแก้ว สปป.ลาว เมื่อไปถึงพบว่ามีคนไทยหลายคนทำงานที่นั้นและงานที่ผู้ต้องหาบอกไว้นั้นไม่เป็นไปตามที่ตกลง เมื่อไปถึงต้องไปเข้าห้องเพื่อเรียนรู้วิธีการหลอกลวง โดยมีคนมาให้ โดยมีการให้สร้างโปรไฟล์ การโพสต์ชักจูงคนมาทำงานและหลอกให้คนนำเงินมาลงทุน ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกผิดและพยายามจะขอกลับประเทศไทยแต่ก็ถูก นายทุนเจ้าของบริษัท ยึดเอกสารพาสปอตไว้ ขังไม่สามารถออกจากตึกที่ทำงานได้ซึ่งผู้เสียหายพยายามหนีและขอความช่วยเหลือ เมื่อกลุ่มขบวนการดังกล่าวจับได้ก็จะมีการลงโทษทำร้ายร่างกาย และยึดเงินที่ทำงานไปด้วย   กระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนผ่านไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตไทยประจำสปป.ลาว กระทั่งเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค5 สามารถไปช่วยเหลือผู้เสียหายออกมาได้

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

            หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม จนทราบว่ามีขบวนการชาวไทย และต่างประเทศ คอยทำหน้าที่จัดหา ชักชวน หลอกลวง คนไทย ให้ไปทำงานยังประเทศ สปป.ลาว, เมียนมา และ กัมพูชา โดยหลอกว่าเป็นงานเกี่ยวกับการใช้ระบบอินเตอร์เน็ต

 มีหน้าที่คอยช่วยบริษัทในการลงทุนในตลาดหุ้น หรือ Crytocurrency พร้อมกับหลอกว่าจะได้รับรายได้สูง จากนั้นจะนัดหมายให้คนไทยที่สนใจไปทำงาน เตรียมตัวเดินทางข้ามแดน แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จุดผ่านแดนยังไม่เปิดตามปกติ จึงมีการแอบติดต่อขบวนการลักลอบพาคนข้ามแดนแบบผิดกฎหมายโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ มีการแบ่งหน้าที่การทำงานกันเป็นระบบตั้งแต่ในประเทศไทย จนถึงที่พักหรือที่ทำงานในประเทศเพื่อบ้าน

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

            จากนั้นผู้ที่เดินทางไปทำงานจะถูกบังคับให้ทำงานเกี่ยวกับระบบ Seammer โดยให้สร้างตัวตนปลอมขึ้นมา แล้วพยายามติดต่อไปยังคนไทยที่อยู่ในประเทศไทย ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ หลอกลงให้หลงเชื่อ เพื่อให้ลงทุนหรือโอนเงินมาให้กับบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศ

 หลังจากมีข้อมูลเบาะแส จึงได้ขอหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย เข้าจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุประมาณ 25 ปี ชาวภูเก็ต ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์นำพาคนไทยไปทำงาน โดยเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม เพื่อกระทำการค้ามนุษย์แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงาน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

จับเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกทำงานต่างประเทศ

           ขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่าย ผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลการไปทำงานยังต่างประเทศให้รอบคอบ ซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ที่จะนำไปบังคับใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย และขอให้ประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อจากบุคคลทั่วไป ที่เข้าทักทายผ่านช่องทางสื่อโซเซียลต่างๆ โดยมักจะเข้ามาตีสนิท ชักชวนหลอกให้ไปลงทุน หรือโอนเงินให้ จึงแนะนำหากจะลงทุนให้ลงทุนผ่านสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและพิสูจน์ได้ และให้ใช้สื่อโซเซียลอย่างมีสติ

logoline