ฟันธงใช้ ม.116 เอาผิดอาญากลุ่มล้มล้างการปกครองฯ

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 รู้จักกันดีในชื่อฐานความผิดว่า "ยุยงปลุกปั่น" เมื่อพิจารณาดูองค์ประกอบความผิดของมาตรา 116 แล้ว นักกฎหมายหลายคนมองว่า ค่อนข้างสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ในเรื่องล้มล้างการปกครองที่ศาลวินิจฉัยเอาไว้

 

เหตุนี้เอง "กูรูกฎหมาย" หลายๆคน จึงฟันธงว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย จะใช้มาตรานี้เป็นฐานในการดำเนินการกับกลุ่มขบวนการที่กระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ส่วนคนที่เคยโดนแจ้งข้อหาไปแล้ว ก็มีความเสี่ยงสูงจะกลายเป็นผู้กระทำความผิด และต้องรับโทษ เพราะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญรองรับอยู่

 

 

เมื่อมาดูองค์ประกอบของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จะยิ่งเห็นความชัดเจนถึงความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 คือ

 

1.เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพด้วยวาจา คือ การพูด ด้วยหนังสือ คือ การเขียน หรือวิธีอื่นใด หมายถึงวิธีไหนก็ได้ เช่น โพสต์เฟซบุ๊ก แชร์ภาพ 

 

2.ไม่ใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หมายถึงการกระทำในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือเนื้อหาต่างๆ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

 

3.ไม่ใช่การติชมโดยสุจริต หมายถึง เป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย หรือทำให้เกิดความเกลียดชัง

4.พฤติการณ์ของทั้ง 3 ข้อ ต้องมีเป้าหมายหรือเจตนาพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

 

- เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน หรือรัฐบาล แต่ต้องขีดเส้นใต้ตรงที่ว่า "โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือประทุษร้าย" ฉะนั้นการจะพิจารณาว่าเครือข่ายม็อบ 3 นิ้ว กระทำการเข้าข่ายหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าแกนนำม็อบใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือไม่

 

- เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน แต่ก็ต้องขีดเส้นมใต้อีกว่า ความปั่นป่วนนั้นต้องถึงขนาด "จะก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง"

 

- หรือเป้าหมายสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งเป้าหมายข้อนี้ เข้าข่ายง่ายที่สุด เพราะเขียนเอาไว้กว้างๆ เท่านั้น

 

นี่คือแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับการบังคับใช้กฎหมายต่อไป หลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ