สภาวิศวกร เเนะ กทม.รับมือน้ำหนุน รุนเเรงกว่าปี54
ติดตามสถานการณ์ล่าสุด ชุมชนนอกเเนวคันกั้นน้ำริมเเม่น้ำเจ้าพระยา เสริมกระสอบทรายเต็มที่ป้องกันน้ำทะเลหนุนสูง ขณะที่วันนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกรอบก่อนเที่ยงวันนี้ ผู้เชียวชาญด้านวิศวกร ลงพื้นที่เพื่อหาเเนวทางร่วมเเก้ปัญหา
จับตาปรากฎการณ์ น้ำทะเลหนุนที่จะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงพฤศจิกายน ธันวาคม จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงได้มากกว่าวานนี้ ( 8 พ.ย. 64 ) ที่นับเป็นน้ำทะเลหนุนสูงในรอบปี
ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบ ตามชุมชนต่างๆพบว่า สถานการณ์กลับเข้าสู่สถาวะปกติแล้ว แต่ชาวบ้านยังคงหวาดวิตกกับเหตุการที่เกิดขึ้นเเบบกะทันหัน โดยไม่ได้มีการเเจ้งเตือนให้เตรียมความพร้อมในการรับมือ
ขณะที่ข้อมูลจากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ที่บริเวนหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ เวลา 11.26 นาที สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.23 ซม. ซึ่งจะมากกว่าวานนี้ ( 8 พ.ย. 64 ) ที่ 2.16 ซม. ส่วนที่บริเวณ ป้อมพระจุล น้ำหนุนเต็มที่เมื่อ 09.30 น.ที่ 2.17 ซม.
ขณะเดียวกัน สภาวิศวกร ได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานซังฮี้ จุดที่เกิดน้ำทะลักล้นกระสอบทราย เพื่อสำรวจและหาแนวทางป้องกันน้ำทะเลหนุน หลังจากน้ำทะเลหนุนสูงกว่า 2.40 เมตร จนส่งผลกระทบกับประชาชน ทั้งในส่วนของบ้านเรือนและการสัญจร
โดยดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาฯ ระบุว่า น้ำหนุนมีเวลาเตรียมตัว เพราะมีสัญญาล่วงหน้ามาเป็นสัปดาห์ ประชาชนควรต้องตื่นตัวน้ำทะเลหนุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว วันนี้จะเป็นสถิติใหม่ จะทำให้น้ำยกตัว กรุงเทพชั้นในน้ำอาจท่วมถึง 3 เมตร
กรุงเทพอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำเจ้าพระยา กรุงเทพอยู่ได้ด้วยกำเเพงกั้นเเม่น้ำเจ้าพระยา เเต่ยังมีหันหล่อมีรูรัว น้ำจะทะลักออกไปตลอดเวลาจนท่วมฝั่งธน กรุงเทพ เขื่อนที่มีอยู่ถูกออกเเบมาหลายสิปปี จากระดับน้ำขึ้นสูงสุดในวันนั้น
เเต่วันนี้ระดับน้ำทะเลสุงสุดทุกปี น้ำเหนือก็มากกว่าทุกปี ผนังเขื่อนที่ทำอยู่วันนี้ไม่สามารถป้องกันได้ นอกจากนี้ยังทำให้เขื่อนเกิดความไม่มั่นคงดินทรุด เขื่อนพัง หากไม่ทำตามข้อเเนะนำในอนาคตจะรุนเเรงมากขึ้น
ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น คือลมตะวันตกเฉียงใต้ เเละ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ สวนทางกัน ด้าน นายสมควร ต้นจาร ผู้อำนวยสำนักพยากรณ์อากาศ เปิดเผยว่า
อิทธิพลเป็นปัจจัยเสริม จึงทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเกินจากที่คาดการณ์ ปัจจัยหลักจากน้ำขึ้นน้ำลง เป็นเเรงดึงดูดโลก จึงทำให้เกิดน้ำหนุนสูง โดยเฉพาะในช่วงนี้มีทั้งลมป้ายลมหนาวที่พัดส่วนกันในบางเวลา จึงยกตัวของน้ำหอบไปกองรวมกัน
ขณะที่ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ระบุว่า อิทธิพลน้ำทะเลหนุนสูงในปีนี้ 2554 ในปี 2554 อิทธิพลน้ำเหนือมีสูงกว่า จึงทำให้ช่วงเวลาน้ำท่วมทอดเวลายาว แต่ในปีนี้มาในช่วงน้ำเกิด ประมาณทุกๆ 2 สัปดาห์ เหตุการณ์แบบนี้ในระยะสั้น หลังจาก 10 พ.ย.จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ช่วง 21-24 พ.ย. น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งหนึ่ง (แต่ระดับอาจจะต่ำกว่า ประมาณ 0.20-0.30 m) และจะหนุนสูงสุดในปีนี้ ( สูงกว่าวันนี้ประมาณ 0.10-0.20 m )ช่วงวันที่ 5-9 ธ.ค. ดังนั้น ต้องเฝ้าระวัง