svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

08 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ได้เวลาประกบคู่ เปรียบเทียบคุณสมบัติอันโดดเด่นของ ยาเม็ดต้านโควิดจาก 2 ยักษ์ใหญ่ ไฟเซอร์ และ เมอร์ค ที่ถือว่า 2 ความหวังใหม่ในการรับมือวายร้ายโควิด-19 ใครจะเป็นความหวังสูงสุดของชาวโลก ติดตามจากรายงานชุดนี้

โลกของอุตสาหกรรมยา ยังคงเป็นประเด็นร้อนให้ถกเถียง ด้วยการแข่งขันกันที่ดุเดือดและต่อเนื่องในด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาต่อกรกับไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางกระแสการแพร่กระจายที่ต่อเนื่องของเจ้าวายร้ายที่ชื่อโควิด-19 ที่นับวันจะยิ่งกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ

 

รายงานข่าวอัปเดตล่าสุด เมื่อช่วงวันศุกร์ (5 พ.ย.64 ที่ผ่านมา) ทาง บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เปิดตัวยาเม็ดต้านโควิด-19 ชื่อ “แพ็กซ์โลวิด” (PAXLOVID) พร้อมอ้างข้อมูลผลทดสอบระยะที่ 3 ว่า มีประสิทธิภาพเกือบ 90%

 

ทางด้านนายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของไฟเซอร์ กล่าวว่า ข่าวดีวันนี้ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง” ในความพยายามยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

 

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของไฟเซอร์จึงเป็นเหมือนการส่งสัญญาณท้าทายยาเม็ด “โมลนูพิราเวียร์” (MOLNUPIRAVIR) ที่ร่วมกันพัฒนาโดยบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเธราพิวติกส์ ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้กับผู้ป่วยโควิดในสหราชอาณาจักรเมื่อไม่นานนี้

 

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ผลการทดสอบระยะที่ 3 ระบุว่า ยาเม็ดของไฟเซอร์ช่วยลดอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 89%

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

ส่วนผลการทดสอบระยะที่ 3 ของยาเม็ดของเมอร์ค ชี้ว่า ลดอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต 50%

 

ซึ่งข้อมูลจากทั้ง 2 บริษัท ระบุว่า ยาเม็ดต้านโควิด-19 แพ็กซ์โลวิด และ โมลนูพิราเวียร์ ควรให้ผู้ป่วยรับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

ส่วนปริมาณการผลิต ไฟเซอร์เผยว่า จะผลิตยาแพ็กซ์โลวิด 180,000 แผงภายในสิ้นปี 2564 และอีกอย่างน้อย 50 ล้านแผงภายในสิ้นปี 2565

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

ขณะที่ เมอร์ค เปิดเผยว่า จะผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ 10 ล้านคอร์สภายในสิ้นปี 2564 และอีกอย่างน้อย 20 ล้านคอร์สภายในสิ้นปี 2565

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

สำหรับกลไกการออกฤทธิ์ของแพ็กซ์โลวิด คือ Protease inhibitor ส่วนของ โมลนูพิราเวียร์ คือ Viral mutagenic

 

ส่วนเรื่องการรับรองจากหน่วยงานรัฐ ดูเหมือนว่า เมอร์คยังคงได้เปรียบไฟเซอร์ เพราะผ่านการอนุมัติให้ยาชนิดนี้สามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยในสหราชอาณาจักรได้แล้ว และได้ยื่นขออนุมัติการใช้ยาในสหรัฐแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนระหว่างรอผล

 

ทางด้านผู้ผลิดไฟเซอร์เตรียมเพิ่มข้อมูลผลทดสอบทางคลินิกให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) หลังจากบริษัทยื่นเรื่องขออนุมัติการใช้ยาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินต่อ FDA เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลเช่นกัน

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

 

 

ขณะที่สื่อต่างประเทศเผยว่า ยังมีอีกกระแสข่าวจากทางด้านผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำยา 2 ตัวนี้มาเปรียบเทียบกันได้โดยตรง

“เราไม่สามารถเปรียบเทียบยาทั้ง 2 ตัวนี้ได้ จนกว่าจะรู้ข้อมูลความเสี่ยงต่อผู้ป่วยชัดเจนกว่านี้” แซม ฟาเซลลี นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ กล่าว

จับตา 2 "ยาเม็ด" Pfizer VS Merck " 2 ความหวังใหม่" ในการรับมือวายร้ายโควิด

ขอขอบคุณ : เพจกรุงเทพธุรกิจ

logoline