5 พฤศจิกายน 2564 ชาวบ้านหลายพื้นที่เร่งเกี่ยวข้าว บางคนก็เหลือพื้นที่ทำนาไม่เยอะเนื่องจากก่อนหน้านี้ถูกน้ำท่วม จะเหลือเฉพาะที่สูง ที่เนิน โดยจ้างรถเกี่ยวข้าวในราคาไร่ละ700บาท แทนกำลังคน เพื่อเร่งเกี่ยวข้าวไปตากให้แห้งลดความชื่นก่อนจะนำไปขายจะได้ราคาสูงขึ้น หรือนำไปขายสดได้ทัน ซึ่งหากจ้างแรงงานคนจะใช้เวลานาน และค่าแรงสูงขึ้น แต่ในปีนี้ชาวบ้านตามพื้นที่ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ปลูกข้าวทุกชนิดกว่า 1 ล้าน 7 แสนไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 1 ล้าน 2 แสนไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ประมาณ 5 แสนไร่ ต้องมาประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ข้าวเปลือกเจ้าแห้ง หรือทั่วไปเกี่ยวสดราคากิโลกรัมละ 5 บาท แถมต้องถูกหักความชื้นอีกด้วย ส่วนข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดมีราคากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ต้องถูกหักความชื้นอีกด้วย
โดยนายอรัญ ศุพรโพคี อายุ 53 ปี เกษตรกรชาวนาบ้านพลัง หมู่ 10 ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ บอกว่า ตนเองทำนาปลูกข้าวมากกว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นราคาข้าวตกต่ำเช่นนี้มาก่อน ตนเองปลูกข้าวเหนียว 5 ไร่ไว้กิน และปลูกข้าวหอมมะลิอีก 10 ไร่ เอาไว้กินและเหลือไว้ขาย ปีนี้ค่าลงทุนปลูกข้าวสูงทั้งต้นฤดูค่าน้ำมันเชื้อเพลิงใส่เครื่องสูบน้ำเข้านา ค่าปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี และค่าแรงงานต่าง ๆ กว่าจะได้ข้าวรอดตายมา ยังดีที่ปีนี้ในพื้นที่นาดอนที่ต้องลงทุนมากเพื่อปลูกในที่สูงไม่ถูกน้ำท่วมต้นข้าวเสียหาย มีเพื่อนชาวนาบ้านเดียวกันเกี่ยวข้าวได้ข้าวเปลือกไปขายมาตั้งแต่ช่วงวานนี้(4 พ.ย.64)ได้กิโลกรัมละ 4 บาท 50 สตางค์ แถมถูกหักความชื้น 15 %ด้วย
ตนเองมองว่าหากขายราคานี้ชาวนาอยู่ไม่ได้แน่นอนเพราะขาดทุนมากจนไม่เหลืออะไรเลย ในส่วนตัวมองว่าหากราคาข้าวเปลือกต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10 บาท จะเก็บข้าวเปลือกไว้ให้ไก่กิน ใช้เลี้ยงไก่ขายจะดีกว่าขายข้าวเปลือกไม่ได้ราคา ซึ่งบางรายที่มีความจำเป็นต้องใช้หนี้ก็จำใจต้องเร่งนำไปขายใช้หนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้อีกแล้วปีนี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลเร่งลงมาช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งราคาที่จะพอช่วยให้ชาวนาอยู่ได้ในขณะนี้ราคาขายควรจะไม่น้อยกว่า 10-12 บาทต่อ กิโลกรัม(กก.)ขึ้นไป และหากปล่อยไปเช่นกันนี้ชาวนาก็เหมือนหมดตัวไม่มีเงินมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. เงินที่ลงทุนไปทั้งหมดต่อปีกว่า 200,000 บาท แต่กลับขายข้าวได้ไม่ถึงแสนบาท ต้องมาหมดตัวขาดทุนหนักขนาดนี้
โดย - สุทธิพงศ์ เสฎฐรังสี