svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ยันเข้าใจผิด! เป็นหน.แก๊งรุมสกรัม ด.ญ.วัย 14 ปี

04 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แพร่ - หนุ่มวัย 29 ปี ขึ้นโรงพักแจ้งความ หลังถูกกล่าวเป็นหัวหน้าแก๊งรุมสกรัม เด็กหญิงวัย 14 ปี  จนมีการโพสต์ขู่ฆ่า ดักทำร้ายและตั้งค่าหัว 500 บาท แจงเป็นความเข้าใจผิด ยันเป็นคนเข้าไปห้ามปราม

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นายไพรัช เมตตาไพจิตร์ หรือตูน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 3 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สมเกียรติ กอบกำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สูงเม่น กรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นกว่า 30 คนที่รุมยำ ด.ญ.มิ้น (นามสมมติ) อายุ 14 ปี จนสลบแล้วเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

 

ยันเข้าใจผิด! เป็นหน.แก๊งรุมสกรัม ด.ญ.วัย 14 ปี

นายไพรัช เปิดเผยว่า ตามที่มีคลิปการชกต่อยกันในโลกสังคมออนไลน์  จำนวน 3 คลิป โดยกลุ่มวัยรุ่นชกต่อยรุมสกรัม ด.ญ.มิ้น(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และต่อมามีการอ้างว่าคนชื่อตูนซึ่งหมายถึงตนเองเป็นหัวหน้าแก๊งดังกล่าวนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด หลังจากเป็นข่าวตัวเองถูกโพสต์ข่มขู่ตามล่าเพื่อทำร้ายในโลกสังคมออนไลน์ พร้อมกับมีการตั้งค่าหัวให้ใครทำร้ายจะได้เงินคนละ 500 บาท และบางรายถึงกับโพสต์ขู่ฆ่าก็มี

ทั้งนี้เหตุการณ์ชกต่อยกันของ ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) ครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564  ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) ได้ชกต่อยกับ ด.ญ.พันซ์ (นามสมมุติ) ที่อ่างเก็บน้ำแม่มาน ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ครั้งที่สอง วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) ชกกับ นางสาวบิว (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่บริเวณหน้าร้านอู่ซ่อมรถของตนเองที่หมู่ 8 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ครั้งที่สาม ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน รุมสกรัมจนสลบ ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำมาน

 

ยันเข้าใจผิด! เป็นหน.แก๊งรุมสกรัม ด.ญ.วัย 14 ปี

สำหรับการชกต่อยครั้งแรกระหว่าง ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) กับด.ญ.พั้นซ์(นามสมมุติ) เรื่องนี้ทราบว่าเป็นเรื่องชู้สาว แต่ตนเองไม่ทราบเรื่องและไม่เกี่ยวข้อง ส่วนครั้งที่สอง เหตุเกิดที่หน้าร้านซ่อมจักรยานยนต์ หมู่ 8 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถของตนเอง และได้พักอยู่กับผู้หญิงสองคน หนึ่งในสองคนคือ นางสาวบิว(นามสมมุติ) เนื่องจาก ด.ญ.มิ้น(นามสมมุติ) ถูกพ่อแจ้งความตามหาเพื่อให้กลับบ้าน แต่ ด.ญ.มิ้น(นามสมมุติ) จะขอมานอนบ้านกับตนเองด้วยด้วย ทำให้ นางสาวบิว(นามสมมุติ) ไม่ให้มานอนในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ด้วยเนื่องจากกลัวจะเกิดความเดือดร้อน ทำให้ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ) ไม่พอใจ พูดต่อว่า นางสาวบิว(นามสมมุติ) ว่า “มึงเป็นใครทำไมถึงนอนได้แต่กูทำไมถึงนอนไม่ได้” จึงทำให้ทั้งสองได้ชกต่อยกันขึ้นที่บริเวณหน้าร้านของตนขึ้น และตนเองก็เป็นผู้ห้ามปรามให้ทั้งสองหยุดการชกต่อยกัน

 

 

ส่วนครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่อ่างเก็บน้ำอ่างแม่มาน ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นการรุมสกรัม ด.ญ.มิ้น(นามสมมุติ) ด้วยกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน แล้วกล่าวหาตนเองเป็นหัวหน้าแก๊งของกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้าย ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จนผู้รับทราบข่าวที่ไม่เป็นความจริงได้โพสต์ในโลกสังคมออนไลน์ว่าจะมาดักทำร้ายตนเองบ้าง จะฆ่าบ้าง และมีการตั้งค่าหัวให้รางวัลกับผู้ที่ทำร้ายตนคนละ 500 บาท ทั้งๆที่กลุ่มผู้ที่รุมสกรัม ตนเองไม่รู้จักว่าเป็นใครที่ไหน แต่พอเห็นถูกทำร้ายจึงเข้าไปช่วยเหลือเพราะว่าวันนั้นก็ไปเที่ยวที่อ่างเก็บน้ำแม่มานเหมือนกัน

ยันเข้าใจผิด! เป็นหน.แก๊งรุมสกรัม ด.ญ.วัย 14 ปี

นายไพรัช กล่าวว่า  ความเป็นจริงการชกต่อยของ ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ)ในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 และการถูกรุมสกรัมในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ตนเองเป็นผู้เตือนผู้ที่ทำร้าย ด.ญ.มิ้น (นามสมมุติ)ว่า อย่าทำร้ายไม่งั้นเจอดี การเข้าไปช่วยเหลืออาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นหัวหน้าแก็งกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว วันนี้จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์และแสดงความเป็นผู้บริสุทธิ์ของตนเอง

 

ยันเข้าใจผิด! เป็นหน.แก๊งรุมสกรัม ด.ญ.วัย 14 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนเจ้าหน้าตำรวจได้ติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยของนายไพรัช  เพราะว่าอาจจะเกิดความเข้าใจผิดของผู้คนในสังคม ขณะที่ปัญหาวัยรุ่นชกต่อยกันคราวนี้เป็นภาพสะท้อนถึงสังคมที่ขาดความใส่ใจในเยาชนของสังคมให้ดีพอ จนทำให้เกิดพฤติการณ์ของเด็กวัยรุ่นที่นัดกันมาชกต่อยกันและถูกเผยแพร่ไปในโลกสังคมออนไลน์

โดย สุภัทร แสงดอก / แพร่

 

logoline