รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประภัตร โพธสุธน ระบุ ได้ประชุมติดตามสถานการณ์เรื่องโค-กระบือ ร่วมกับตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว พ่อค้า และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์
หลังจากประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว โดยกรมปศุสัตว์พร้อมเข้าไปให้การช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดหลักที่นำเข้าโค–กระบือไทย แต่ประเทศจีนมีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย และสารเร่งเนื้อแดง และโรคต่างๆมีการทำข้อตกลงร่วมกับประเทศลาว ในการสร้างด่านที่ชายแดนกักกันและตรวจโรค ก่อนส่งเข้าสู่ประเทศจีน ซึ่งไทยก็ต้องส่งขายผ่านประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถส่งตรงเข้าสู่ประเทศจีนได้โดยตรง และในขณะนี้ได้รับการติดต่อจากตัวแทนของประเทศลาว ว่ามีความต้องการซื้อโคจากประเทศไทย เพื่อไปส่งต่อสู่ตลาดจีนกว่า 500,000 ตัว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม จึงได้สั่งการลงไปให้ดำเนินการแล้ว ดังนื้
1. ให้กรมปศุสัตว์เตรียมเปิดเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพื่อส่งเสริมการนำเข้า การผลิต–ส่งออก โคและเนื้อโคปศุสัตว์ Sandbox ตามด่านชายแดนที่สำคัญ
2. ให้มีการกำหนดมาตรการต่างๆ ตามที่ผู้ซื้อกำหนด (ประเทศจีนประเทศลาว) (รวมถึงการรณรงค์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค งดการใช้สารเร่งเนื้อแดง
3. ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ เพื่อเตรียมข้อมูลที่จะใช้ในการไปเจรจากับผู้ซื้อในสัปดาห์ต่อไป
4. ให้ทางคณะเกษตรกรผู้เลี้ยงโค และพ่อค้าคนกลาง ร่วมเดินทางไปพบผู้ซื้อ ระหว่างประเทศไทย - ประเทศลาว โดยยังไม่กำหนดสถานที่ แต่จะเดินทางไม่เกินวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564
5. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ดำเนินการประสานงานตรงกับรัฐบาลจีน เพื่อหารือการจัดทำพิธีสารขอเจรจาส่งออกโค-กระบือ ไปยังประเทศจีนโดยตรง ไม่ผ่านประเทศกลาง
6. ให้กรมปศุสัตว์เร่งหารือและกำหนดแนวทาง หลักเกณฑ์ เพื่อเปิดด่านชายแดนทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถนำเข้าวัวมาขุนต่อและส่งออกได้