จบด้วยดี!ลูกค้าหัวร้อนยกมือไหว้-ขอโทษเจ้าของร้านผัดไทย
เชียงใหม่ -จบกันด้วยดี! ลูกค้าหัวร้อน ผลักอกเจ้าของร้านผัดไทยครัวบ้านยิ้มจนล้ม เผยเป็นข้าราชการสาว ยอมขอโทษ-ยกมือไหว้ ชี้แค่เข้าใจผิดถูกแซงคิว
จากกรณีนางอัจฉรา บุญสวัสดิ์ อายุ 56 ปี เจ้าร้านผัดไทยครัวบ้านยิ้ม ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกสันป่าข่อย ถนนเจริญเมือง ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “atchariya yimyim” ถูกลูกค้าที่มาต่อคิวซื้อผัดไทย ชี้หน้าด่าและผลักหน้าอกจนทำให้ล้มใส่โต๊ะ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นตั้งแต่เปิดร้านผัดไทยมากกว่า 15 ปีไม่เคยพบลูกค้าในลักษณะแบบนี้
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้มาพบกันที่ สถานีตำรวจเพื่อเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยโดยทางนางอัจฉรา เจ้าของร้านผัดไทย ได้เดินทางมาพร้อมกับหลานสาว ส่วนคู่กรณีซึ่งเป็นลูกค้านั้นอายุ 42 ปี รับราชการอยู่สังกัดหน่วยงานหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่
เมื่อทั้งคู่ได้เดินทางมาถึง ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทางคู่กรณีเป็นคนเล่าเหตุการณ์ว่า เหตุใดต้องไปทำแบบนั้น โดยทางคู่กรณีฝ่ายลูกค้ากล่าวว่าในวันเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์เก๋งเดินทางมาซื้อผัดไทยกับคุณแม่ และหลานสาว ระหว่างที่ไปยืนรอซื้อผัดไทยนั้น และให้คุณแม่และหลานสาวนั่งรออยู่ในรถ และรู้สึกว่ารอผัดไทยนานมาก จากนั้นเกิดความเข้าใจผิดว่าถูกแซงคิวด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงได้ผลักเจ้าของร้าน
ด้านนางอัจฉรา บุญสวัสดิ์ เจ้าของร้านผัดไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ออกมายืนถ่ายรูปเซลฟี่กับลูกค้าหน้าร้านนั้นจนทำให้ลูกค้าเกิดไม่พอใจนั้นลูกค้าที่ตนมายืนเซลฟี่นั้น คือ นักร้องสาวชื่อดัง ไก่ พรรณนิภา จิระศักดิ์ เจ้าของเพลงกุหลาบแดง ซึ่งเป็นลูกค้าของร้าน หลังจากที่ถ่ายรูปเซลฟี่กับไก่ พรรณนิภา เสร็จ ได้เดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งลูกน้องได้ผัดไทยให้กับลูกค้าคู่กรณีจนเสร็จแล้ว แต่ลูกค้าคู่กรณีกลับเข้าใจผิดได้เดินเข้าไปยังครัวเข้าไปต่อว่าและหาเรื่องตน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคู่กรณีเข้าใจแล้วว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด และไม่ได้ติดใจเอาเรื่องอะไร แค่อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าอย่าไปโมโหใช้อารมณ์แบบนี้อีก
กระนั้นก็ตาม หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้ให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้พูดจาปรับความเข้าใจกัน ซึ่งคู่กรณีฝ่ายที่ทำร้ายเจ้าของร้านนั้นยอมขอโทษว่าสาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากเป็นการเข้าใจผิด โดยทางคู่กรณีได้กล่าวคำขอโทษเสร็จได้ยกมือไหว้เจ้าของร้าน ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนคู่กรณี พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันเดินลงจากสถานีตำรวจไป
โดย ธนกร วงค์นาง / เชียงใหม่