svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

พาณิชย์ สอบความผิดทุจริตถุงมือยางแสนล้าน เสร็จแล้ว อคส. เสียหาย 2 พันล้าน

01 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พาณิชย์ สอบความผิดทุจริตถุงมือยางแสนล้านบาท เสร็จแล้ว พบ อคส.เสียหายเบื้องต้น 2,003 ล้านบาท เผย แก๊งทุจริตต้องชดใช้ความเสียหายรวม 7 ราย เตรียมชง ผอ.อคส. ก่อนส่งให้คลังเห็นชอบ

1 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีทุจริตถุงมือยาง ว่า คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่มี นายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาความเสียหายของ องค์การคลังสินค้า (อคส.)และบุคคลที่จะต้องชดใช้ความเสียหายให้อคส. กรณีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาทนั้น พิจารณาเสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างการปรับปรุงรายละเอียดก่อนเสนอผลการสอบอย่างเป็นทางการ ให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการอคส.พิจารณา เพื่อเสนอต่อให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางลละเมิด กระทรวงการคลัง พิจารณาต่อไป เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ดูแลความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่รัฐ

 

สำหรับผลการพิจารณา พบว่า การทุจริตครั้งนี้ ทำให้อคส.เสียหายในเบื้องต้น 2,003.77 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเงินที่อคส.ได้โอนเป็นค่ามัดจำถุงมือยางให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาที่อคส.ว่าจ้างให้ผลิต โดยยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจของอคส.

นอกจากนี้มีผู้ต้องชดใช้ความเสียหายรวม 7 ราย คาดว่า เป็นเจ้าหน้าที่ อคส. 3 ราย ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส., นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ 8 ที่ถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรงให้ไล่ออกไปแล้วนั้น ต้องชดใช้ความเสียหาย ด้วย คาดว่า รวมกันไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารสูงสุดในอคส. อีก 1 ราย ที่ต้องชดใช้อีกกว่า 400 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดกระทรวงการคลัง พิจารณาแล้ว และเห็นชอบตามผลสอบนี้ จะส่งเรื่องกลับไปให้ผู้อำนวยการอคส. เพื่อดำเนินการให้ทั้ง 7 ราย ชดใช้ความเสียหายให้ หากทั้งหมดไม่ยินยอม หรือไม่มีเงินจ่าย อคส.จะบังคับยึดทรัพย์ต่อไป

 

ส่วนการไล่ออก พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ นายเกียรติขจร และนายมูรธาธร หลังจากที่คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้เห็นชอบให้ไล่ออก เพราะมีความผิดวินัยร้ายแรงนั้น ในส่วนของพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ นายเกรียงศักดิ์ ได้ทำหนังสือไปยังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อให้ดำเนินการ เพราะพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ถูกคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ย้ายด่วนไปสำรองราชการที่สำนักนายกฯ จึงต้องรอให้ปลัดสำนักนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ  ส่วนอีก 2 ราย นายเกรียงศักดิ์ ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ราย ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งไล่ออกต่อประธานบอร์ดอคส.ได้ หากยื่นอุทธรณ์จริง บอร์ดอคส.จะแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคำอุทธรณ์ โดยต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน

ทั้งนี้การฟ้องร้องคดีอาญาผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง ล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่ อคส. 3 คนที่ถูกไล่ออกและเจ้าหน้าที่อื่นใน อคส. รวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คาดว่า จะสรุปสำนวนทั้งหมด และชี้มูลความผิดได้ในเร็วๆ นี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องต่อไป รวมถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะดำเนินการทางแพ่ง โดยอาจยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเอาเงินมาคืนให้ อคส.

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกชุดหนึ่ง ที่นายเกรียงศักดิ์ เพิ่งแต่งตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ให้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ อคส.ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเพิ่มเติมในโครงการจัดซื้อถุงมือยาง นอกเหนือจากทั้ง 3 คนที่ถูกไล่ออกไปแล้วนั้น ล่าสุด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เมื่อเสร็จแล้ว หากพบผิดจริง จะนายเกรียงศักดิ์ จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อลงโทษทางวินัยด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อคส.อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในโครงการทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่อคส.ส่อใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริตจนทำให้อคส. และรัฐเสียหาย ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อป.ป.ช.ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และพวก ในฐานร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต เอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอชน จนทำให้อคส.เสียหายกว่า 1,300 ล้านบาทแล้ว คาดว่า จะมีกรรีทุจริตอื่นๆ อีกที่เตรียมยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมาย

 

logoline