29 ตุลาคม 64 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือเเจ้งกลับมายัง สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา กรณี สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือยืนยันความเหมาะสม ในการแต่งตั้งนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เป็นผู้ตรวจการอัยการ
โดยหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เเจ้งว่า องคมนตรีได้ขอให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาว่า พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 38 การแต่งตั้งข้าราชการอัยการ ให้ดำรงตำแหน่งนอกจากตำแหน่งอัยการผู้ช่วยตำแหน่งอัยการอาวุโส ตำแหน่งรองอัยการสูงสุดและตำแหน่งอัยการสูงสุด ให้ประธาน ก.อ. เสนอ ก.อ. โดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถ ความรับผิดชอบประวัติการปฏิบัติราชการ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลนั้น เทียบกับงานในตำแหน่งข้าราชการอัยการที่จะได้รับแต่งตั้งนั้น ๆ
เพื่อให้ความเห็นชอบก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว จึงนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ในกรณีที่ ก.อ. ไม่ให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใด ตามที่ประธาน ก.อ.เสนอตามวรรคหนึ่งให้ประธาน ก.อ. หรือกรรมการอัยการคนหนึ่งคนใด เสนอชื่อบุคคลอื่นเพื่อให้ ก.อ.ให้ความเห็นชอบได้และในกรณีที่มีการเสนอบุคคลหลายคนให้ดำรงตำแหน่งเดียวกันให้ ก.อ.พิจารณาผู้ได้รับการเสนอชื่อเรียงเป็นรายบุคคลตามลำดับอาวุโส เพื่อให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งใด ถ้าเป็นกรรมการอัยการด้วย ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อออกจากที่ประชุมในระหว่างการพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบ แต่ให้นับเป็นองค์ประชุมด้วย
โดยรายละเอียดหนังสือยังระบุ ว่า พฤติการณ์ของ นายปรเมศวร์ ที่ถูกข้อหาขับรถในขณะเมาสุราเเละมีการเฉี่ยวชนผู้อื่นเเละหลบหนี (เเม้ว่าจะมีการสั่งไม่ฟ้องชนเเล้วหลบหนีในภายหลัง ) มีความเหมาะสมเเละสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาสอดคล้องกับมาตรา 38 หรือไม่
ประกอบกับปรากฎคำพิพากษาว่าศาลได้มีคำพิพากษาสั่งจำคุก เเต่ให้คุมประพฤติรอการลงโทษ ซึ่งเท่ากับว่า ขณะนี้โทษยังอยู่ระหว่างคุมประพฤติทำให้ยังไม่เเน่นอนว่า ระหว่างที่อยู่ในระยะเวลาคุมประพฤติจะเป็นอย่างไร จึงขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการพิจารณาประเด็นตามมาตรา 38 เกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมทางจริยธรรมประกอบด้วย
ทั้งนี้มาตรา 38 เนื้อความระบุว่า “เป็นอำนาจของประธาน ก.อ. เป็นผู้เสนอรายชื่อเพื่อให้ ก.อ.พิจารณาความเหมาะสม” เรื่องดังกล่าวจึงควรจะมีการนำเข้าที่ประชุม ก.อ.พิจารณาในประเด็นที่ทางองคมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
สำนักงานอัยการสูงสุดได้นำชื่อ นายปรเมศวร์ เสนอขึ้นโปรดเกล้าฯจากผู้ตรวจการอัยการ โดยในครั้งเเรกสำนักงานองคมนตรีได้ส่งเรื่องตีกลับ เพื่อสอบถามกรณีเคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นและอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีขับรถยนต์ในขณะมึนเมา เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ต่อมาเมื่อศาลมีคำพิพากษาคดีเสร็จสิ้นในศาลชั้นต้นเเละอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์คดี จึงมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ก.อ. โดยเสียงส่วนมากเห็นเป็นความผิดไม่ร้ายเเรงให้ว่ากล่าวตักเตือน เห็นควรนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายปรเมศวร์ เป็นผู้ตรวจการอัยการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป จึงได้เสนอชื่อ นายปรเมศวร์ อีกครั้งเเต่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือฉบับที่สอง ถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ยืนยันความเหมาะสม ซึ่งครั้งนั้นมีการนำวาระนี้เข้าเป็นวาระจรเพื่อขอ ก.อ.ยืนยันความเหมาะสมอีกครั้ง เเต่ทางคณะกรรมการอัยการเสียงข้างมากพิจารณาเเล้วเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีการพิจารณามติดังกล่าวอีก
โดยร้อยโท ไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด รักษาราชการเเทน อัยการสูงสุด ในขณะนั้นอยู่ระหว่างลาพักร้อน เป็นผู้ลงนามยืนยันความเหมาะสม จนมีรายงานว่า ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีการส่งเรื่อง ไปยังสำนักงานองคมนตรีพิจารณาเสนอโปรดเกล้าฯ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค.มีหนังสือตีกลับจากองคมนตรีมายังสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี เเจ้งมาทางสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง