svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

27 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน” โพสต์กรณีการแสดงความรักของพ่อ-ลูก ละเมิดสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ไปจนถึงดูคล้ายการคุกคามทางเพศ?

จากประเด็นดังที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมกรณี “หนึ่ง จักรวาล” โปรดิวเซอร์ชื่อดังที่แสดงความรักกับลูกสาวด้วยการแตะเนื้อต้องตัว จนบางคนมองว่าเกินงามจนอาจเข้าข่ายการละเมิดได้ ขณะที่บางส่วนก็มองว่าเป็นเรื่องปกติในการแสดงความรักในครอบครัว  ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงและพร้อมจะระมัดระวังให้มากขึ้น

 

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

ล่าสุด “เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน” ก็ได้ออกมาโพสต์แสดงความเห็นในการแสดงความรักของพ่อลูก พร้อมระบุว่าจากภาพที่ออกมาดูน่าเป็นห่วงจริงๆ แต่จะไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์แต่จะกล่าวถึงกรณีทั่ว ๆ ไปว่า

 

#เส้นบางๆระหว่างรักและละเมิด

สังคมกำลังมีประเด็นถกเถียงกัน ถึงการแสดงความรักของพ่อลูก ที่ดูเหมือนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างการแสดงความรัก กับการละเมิดสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ไปจนถึงดูคล้ายการคุกคามทางเพศ?

 

ที่น่าตกใจกว่าสิ่งที่เห็น คือคอมเมนท์ที่หลากหลาย…

 

“ลูก 13 ยังจับจู๋ลูกอยู่เลย อย่างนี้ก็ผิดปกติหรอ”

 

“ใช่ค่ะ ทุกวันนี้ยังจับจู๋ลูกชายเล่นอยู่เลยค่ะ ทั้งที่ลูกอายุ 14 แล้ว บางครั้งก็แข็งสู้มือด้วย อิอิ เรื่องของแม่ลูก คนอื่นชอบยุ่งจัง”

 

“ลูกสาว 20 แล้ว ผมยังอาบน้ำกับลูกอยู่เลย”

ฯลฯ

 

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

 

เราเติบโตมากับวัฒนธรรม ที่พ่อแม่มักคิดว่าตนเองเป็นเจ้าชีวิต และมีสิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกายลูก

 

เราตี หยิก ด่า ทำร้าย ใช้บุหรี่จี้ … หรือ แม้แต่การแสดงความรัก เราก็หลงลืมที่จะเคารพ “สิทธิ” “อำนาจในการตัดสินใจ” ไปจนถึง “เคารพพื้นที่ส่วนตัว”

 

“พ่อหอมแค่นี้ ต้องมาสะบัดหนีด้วย”

 

“กอดคุณตาหน่อยสิลูก”

 

“คุณป้าเค้าก็แค่จับจู๋หนู แหย่เล่นๆ แค่นี้เอง”ฯลฯ

 

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

ส่วนตัวหมอคิดว่าภาพที่ออกมาดูน่าเป็นห่วงจริงๆ แต่ขออนุญาตไม่วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้ถึงเจตนา แต่ขอพูดถึงกรณีทั่วๆ ไป เผื่อเราจะได้เรียนรู้ร่วมกันนะคะ

 

1. พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเข้าใจ ว่าลูกมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง “เสมอ”

 

2. พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างของการไม่ละเมิดสิทธินั้นเสียเอง เพื่อให้เด็กไม่เกิดความสับสน หรือเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะปฏิเสธผู้ใหญ่ไม่ได้

 

3. หลายครั้งด้วยความรักและความใกล้ชิด เด็กๆ “ไม่สามารถ” กล้าปฏิเสธ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด และบางครั้งเด็กก็เล็กเกินไป จนแยกไม่ได้ ระหว่างการแสดงความรักกับการถูกล่วงละเมิด

 

4. การล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศในเด็ก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัว ดังนั้นผู้ใหญ่ในบ้านต้องช่วยกันสอดส่องดูแล

 

5. สอนลูกเรื่อง "สิทธิในร่างกายตนเอง" ลูกเป็นเจ้าของร่างกายตนเอง มีสิทธิปฏิเสธ ไม่ให้ใครมาวุ่นวาย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนในหรือนอกครอบครัว

 

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

 

6. การแสดงความรัก ควรอยู่ในขอบเขตที่ไม่มากเกินไป และไม่สร้างความอึดอัดใจให้กับผู้รับ

 

7. การแสดงความรัก การแหย่ การเล่น ไม่ควรลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว เช่น พื้นที่ในร่มผ้า หน้าอก ก้น อวัยวะเพศ และทุกพื้นที่ที่ลูกดูมีความอึดอัดใจเมื่อเราไปสัมผัส

 

8. แม้เราจะแสดงความรัก แต่เมื่อลูกแสดงอาการปฏิเสธ แข็งขืน หรือดูอึดอัดใจ ให้เคารพความรู้สึกของลูกเสมอ

 

9. สอนลูก ใช้ประโยคที่เข้าใจง่าย เช่น "มีบางคนเข้ามายุ่งกับร่างกายของเรา โดยที่เราไม่เต็มใจ และไม่อยากให้ทำ เช่น บางคนมาจับหน้าอก มายุ่งกับอวัยวะเพศ มากอด หอม หรือบางทีก็ให้เราไปจับของส่วนตัวเค้าโดยที่เราไม่ยินยอม แบบนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และแม่อยากให้ลูกบอกผู้ใหญ่ให้รับรู้เสมอ”

 

10. บอกลูกเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไร “การถูกละเมิดไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกระทำ” ไม่ใช่ความผิดเพราะเราเป็นเด็ก เพราะเราแต่งตัวไม่เรียบร้อย ใส่ขาสั้น เมา หรือไม่ดูแลตัวเองให้ดี "ไม่มีใครมีสิทธิที่จะล่วงละเมิดใคร" ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรก็ตาม

 

รักหรือละเมิด ? "หมอเด็ก" แจงปมแสดงความรัก "พ่อ-ลูก" แบบถูกเนื้อต้องตัว

 

11. บอกลูกว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกเสมอ ถ้ามีใครมาทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดใจ ให้บอกพ่อแม่ได้ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใครก็ตาม

 

12. ข้อนี้ขอกาสามดาว *** ไม่บังคับให้ลูกกอดหอมใคร หรือให้ใครมากอดหอมลูก โดยที่ลูกรู้สึกไม่เต็มใจ ลูกจะสับสนในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ และไม่แน่ใจในสิทธิในเนื้อตัวร่างกายตนเอง

 

13. การโพสต์อะไรลงใน social ให้คิดไว้เสมอว่าสิ่งนั้นจะอยู่ที่นั่นตลอดไป ถ้าเป็นไปได้ควรไตร่ตรองสิ่งที่จะลงไป และขออนุญาตลูกก่อนลงทุกครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด ณ ขณะนี้…

ในขณะที่เราคิดว่าการทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสสังคม จะนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กคนหนึ่ง

โปรดอย่าลืมว่า ทุกอย่างจะกลายเป็น digital footprint ที่ทำร้ายเด็กคนหนึ่งและครอบครัวตลอดไป… ได้อย่างเจ็บปวดที่สุด

เราอาจช่วยเขาได้ ด้วยการไม่สร้างบาดแผลทางใจให้หยั่งรากลึก

 

 

แนะนำว่าใครเจอกรณีที่สงสัยการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ควรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 หรือ ศูนย์พึ่งได้ OSCC ที่มีในโรงพยาบาลใหญ่แทบทุกที่ ให้ช่วยเข้าไปประเมินถึงความเหมาะสม

นี่เป็นสิทธิและหน้าที่ ที่เราทุกคนพึงกระทำได้

logoline