ดีกันแล้ว ! หลังดราม่าเดือดแม่ค้าสาดน้ำก๋วยเตี๋ยว ต่างฝ่ายต่างขอโทษ

วันนี้ (26 ตุลาคม 2564) ที่ สน.สายไหม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้ง "เพจสายไหมต้องรอด" พา นายไชยา หรือ ต้อม แสงสง่า อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.ท.ชัยณรงค์ แดงนกขุ้ม สว.(สอบสวน) สน.สายไหมหลังถูกแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวใช้น้ำร้อนสาดจนเป็นแผลพุพอง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้กรณีดังกล่าว

นายไชยา ผู้เสียหาย เปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็น วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเกิดเหตุตนเดินไปขอก๋วยเตี๋ยวกินที่ร้านดังกล่าว เพราะไม่มีเงินกินข้าว และที่ผ่านมาขอข้าวกินที่ร้านนี้ตลอด ยอมรับว่า ตนพูดจาไม่ดี และอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อแม่ค้าถามเอาเลือดไหม ตนบอกอยากจะเอาเลือดสาว ก่อนจะถูกขู่ว่าจะสาดน้ำไล่ ซึ่งคิดว่าเป็นน้ำเย็น แต่ปรากฏว่าถูกสาดน้ำร้อน หลังจากนั้นรู้สึกปวดแสบปวดร้อน จึงมานั่งพักรักษาตัวที่ร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือ ส่วนเรื่องการสาดน้ำร้อนใส่ ตนไม่ติดใจเอาความ และขอให้เรื่องนี้ผ่านไป

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังเพจได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้ได้หารือกับ พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม แล้ว กรณีดังกล่าวเป็นอาญาแผ่นดิน พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการ ถึงแม้ผู้เสียหายจะไม่แจ้งความเอาผิด หากผู้เสียหายดูมึนเมา และเคยเจอกัน แต่มากระทำลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นความผิด

ทางเจ้าของร้านรู้สึกผิดไม่คิดว่าแผลจะใหญ่ขนาดนี้ สาเหตุเพียงเพื่อจะไล่ออกไปจากร้าน เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างเยอะ กรณีดังกล่าวขอให้อย่าใจร้อน ให้อภัยกัน ไม่อยากให้เกิดเรื่องลักษณะดังกล่าว มีอะไรขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนดีกว่า ประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ช่วยเหลือเลิกเหล้า และช่วยหางานทำ

ต่อมา น.ส.อรอุมา วัฒนะเวชศักดิ์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนายสตางค์ ปากซอยสายไหม 3 เดินทางมาที่ สน.สายไหม ทันทีที่ได้พบกับผู้เสียหาย ทางผู้เสียหายก็ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมบอกไม่เอาเรื่อง ซึ่งทาง น.ส.อรอุมา บอกว่า หลังจากนี้หากหิวข้าว ให้มาขอดีๆ อย่ามาป่วนที่ร้าน ซึ่งผู้เสียหายได้ถอดหน้ากากร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ภายหลัง น.ส.อรอุมา เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุมีลูกค้าเป็นผู้หญิงเข้ามาใช้บริการภายในร้านจำนวนมาก ซึ่งนายไชยา ปกติมาขอข้าวกินเป็นประจำ ให้ข้าวกินมานาน 7 ปีแล้ว แต่วันดังกล่าวไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นายไชยามาที่หน้าร้าน และพยายามส่งสายตาให้กับลูกค้าผู้หญิง เมื่อออกไปไล่หลายครั้งก็ไม่ยอมไป อีกทั้งยังมีเต้นล้อเลียนอีกด้วย ทั้งที่ปกติจะไม่มาแสดงกิริยาเช่นนี้ จึงตัดสินใจถือน้ำร้อนไปขู่

แต่ทางนายไชยากลับเดินเข้ามาหาจึงสาดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหลังจากนั้น นายไชยายังเดินได้ตามปกติ กระทั่งปิดร้านยังเห็นเดินไปเดินมาในจุดดังกล่าว กระทั่งมาทราบว่าเป็นแผลบริเวณกว้าง ทั้งนี้ยินดีจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล และหากนายไชยาหิวข้าว จะให้อาหารกินเหมือนเดิม แต่ห้ามมาแสดงกิริยาเช่นนี้อีก

พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไว้ก่อน ทั้งนี้ต้องดูจากผลจากการสอบสวนและพยานหลักฐานจากแพทย์ว่าอาการบาดเจ็บดังกล่าวสาหัสรุนแรงหรือไม่ หากเป็นเพียงแค่การทำร้ายร่างกาย โทษมีผลแค่ลงโทษเปรียบเทียบปรับเท่านั้น