มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของปีกันแล้ว เศรษฐกิจไทยเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อและการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง มาดูกันว่า 9 ธนาคารไทย ใน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย มีผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง ในไตรมาส 3 (สิ้นสุด 30 ก.ย.) ของปี 2564
กสิกรไทย ไตรมาส 3 กำไร 8,631 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 28,151 ล้านบาท
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2564 จำนวน 28,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 11,922 ล้านบาท หรือ 73.47%
และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2564 จำนวน 8,631 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 263 ล้านบาท หรือ 2.96%
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “หลัก ๆ เกิดจากในงวด 9 เดือน ปี 2564 ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss: ECL) ลดลง 28.28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยงวด 9 เดือนของปีก่อนธนาคารและบริษัทย่อยได้ตั้งสำรองฯ ในระดับที่สูงเป็นจำนวนถึง 42,879 ล้านบาท ภายใต้หลักความระมัดระวัง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวจากสถานการณ์โควิด-19”
ซีไอเอ็มบี ไทย ไตรมาส 3 กำไร 753 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 1,708.2 ล้านบาท
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับ 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิจำนวน 1,708.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 240.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.4 เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2563 สาเหตุหลักเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 12.3”
สังเกตว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนปี 2564 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2563 ลดลงจำนวน 849.9 ล้านบาทหรือร้อยละ 12.3 เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารด้านทรัพยากรบุคคลและการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.7 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 60.1
ไทยพาณิชย์ ไตรมาส 3 กำไร 8,818 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 27,720 ล้านบาท
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3 ของปี 2564 จำนวน 8,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรจากของธุรกิจที่ดีขึ้นและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง
ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 21,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2564 ธนาคารมีกำไรสุทธิจานวน 27,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 3 ของปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,533 ล้านบาท ลดลง 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลง
กรุงศรี ไตรมาส 3 กำไร 6,413.5 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 27,409 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เผยผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิจำนวน 27,409 ล้านบาท ดันสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่อง
“กรุงไทย” ไตรมาส 3 กำไร 5,055 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 16,645 ล้านบาท
“กรุงไทย” ประกาศผลดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 2564 มีกำไรสุทธิ 16,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉพาะไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 5,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ธนาคารกรุงเทพ กำไร 9 เดือน 20,189 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือน ปี 2564 จำนวน 20,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทีเอ็มบีธนชาต ไตรมาส 3 กำไร 2,359 ล้านบาท
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 2,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลจากนโยบายการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าที่ได้ทำในปีที่แล้ว ซึ่งธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไปในไตรมาส 3 ปี 2563 เพื่อเตรียมรับมือกับปี 2564 โดยแม้ว่าในปีนี้ธนาคารจะยังคงตั้งสำรองฯ ในระดับสูงกว่าปกติ แต่ก็ยังลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงทำให้กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า “ไตรมาส 3 ปี 2564 ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 15,663 ล้านบาท ลดลง 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 7,268 ล้านบาท ลดลงเช่นกันที่ 2.2%
สำหรับค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯ อยู่ที่ 5,527 ล้านบาท ยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติ แต่ลดลง 19.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ธนาคารได้วางแผนตั้งสำรองฯ ล่วงหน้าเป็นจำนวน 6,863 ล้านบาท จึงเป็นที่มาของกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ภายใต้ภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางธนาคารจะยังรักษาระดับการตั้งสำรองฯ ไว้ในระดับสูง และเน้นการประเมินความเสี่ยงของพอร์ตปัจจุบันและการจัดชั้นคุณภาพสินเชื่ออย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตสินเชื่อปกติหรือพอร์ตโปรแกรมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 12% ของสินเชื่อรวม เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการและการตั้งสำรองฯ เป็นไปอย่างเหมาะสมและเพียงพอ”
กลุ่มทิสโก้ ไตรมาส 3 กำไรส 1,560 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 4,990 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 3 ปี 2564 เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,560 ล้านบาท ลดลง 6.3% สาเหตุมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและมาตรการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ธุรกิจหลักของกลุ่มทิสโก้ชะลอตัวลง
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิมีจำนวน 4,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุนที่เติบโต และการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน
เกียรตินาคินภัทร ไตรมาส 3 กำไร 1,478 ล้านบาท / 9 เดือน กำไร 4,295 ล้านบาท
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2564 จำนวน 1,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 และงวด 9 เดือนของปี 2564 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,295 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.0% จากงวดเดียวกันปี2563
ทางด้านการตั้งสำรองธนาคาร ยังคงอาศัยหลักความระมัดระวัง ในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นโดยธนาคารมีการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 3/2564 เป็นจำนวน 1,007 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน