ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ระบุ AAV ได้ทบทวนแผนการปรับโครงสร้างกิจการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนและสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศ โดยเจรจากับผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ต่าง ๆ ของ AAV และ บจ. ไทยแอร์เอเชีย คาดว่าแผนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 1 ปี 2565
แผนปรับโครงสร้างกิจการใหม่ AAV จะเพิ่มทุนจดทะเบียนและเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนรายใหม่มูลค่าไม่เกิน 8,800 ล้านบาท ประกอบไปด้วยการเสนอขายแก่ AirAsia Aviation Limited มูลค่า 7,800 ล้านบาท และเสนอขายแก่นักลงทุนบุคคลธรรมดามูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 5,028,571,429 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท
AAV จะออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนจำนวน 2 ราย มีอายุหุ้นกู้แปลงสภาพไม่เกิน 2 ปี อัตราแปลงสภาพคือหุ้นกู้แปลงสภาพ 0.00175 หน่วยแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น โดยเสนอขายให้ ธนาคารกรุงเทพ มูลค่า 1,200 ล้านบาท และ North Haven Thai Private Equity, L.P. มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเเปลงเป็นหุ้นสามัญรวมจำนวนไม่เกิน 1,257,142,857 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท
ทั้งนี้ นักลงทุนดังกล่าว ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของ AAV ในระยะยาว และพร้อมจะให้การสนับสนุนด้านเงินทุนเพิ่มเติมในอนาคตแก่ AAV
นอกจากนี้ AAV จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,714,285,714 หุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นรายเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) โดยมีอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 5.7625 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 1.75 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท
ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ปี 2565 นั้น AAV จะเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในไทยแอร์เอเชียโดยใช้เงินจากการระดมทุนดังกล่าวในการซื้อหุ้น
ธรรศพลฐ์ บอกถึงเหตุผลในการเสนอแผนใหม่สำหรับการปรับโครงสร้างกิจการและทุน ว่า เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วในดำเนินการด้านเงินทุน รวมถึงได้เจรจากับผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ต่าง ๆ ของ AAV และ TAA แล้ว เชื่อมั่นได้ว่าทุกฝ่าย ทั้งนักลงทุนใหม่และผู้ถือหุ้นเดิมจะได้ประโยชน์ร่วมกันในแผนครั้งนี้
“ธุรกิจท่องเที่ยวเเละสายการบินกำลังฟื้นตัวและได้รับสัญญาณที่ดีสนับสนุนต่อเนื่อง การที่ผมและคณะกรรมการได้ทบทวนทุกแง่มุมเพื่อให้ได้ผลสรุปในการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ จะทำให้การดำเนินงานของไทยแอร์เอเชียกลับมาแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด หลังจากนี้จะเดินหน้าเพิ่มความถี่และเส้นทางบิน ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่าจะกลับมาบินเส้นทางภายในประเทศครบ 100% ภายในเดือนมกราคม 2565 และจะพิจารณาเปิดเส้นทางระหว่างประเทศ ตามเเผนเปิดประเทศของรัฐบาลต่อไป”