สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการรายงานข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 17 ตุลาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 78 ราย โดยในจำนวนนี้จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล 75 ราย และผู้ติดเชื้อในกลุ่ม Buble & Sealed อีก 3 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมรวม 109,097 ราย วันนี้มีผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้วเพิ่มอีก 126 ราย รวมมีผู้ที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้วทั้งหมด 106,259 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษาอีก 1,703 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายวันวันนี้เป็นศูนย์ รวมมีผู้เสียชีวิตสะสม 1,135 ราย
โดยภาพรวมของจังหวัดสมุทรสาครนั้นเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤติที่พบการระบาดอย่างหนักมาแล้ว ซึ่งดูได้จากตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่นอกจากจะต่ำกว่า 100 ราย และลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน การติดเชื้อรายใหม่ยังมีน้อยกว่าผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วกลับบ้านได้อีกด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตก็เป็นศูนย์หรือไม่มีผู้เสียชีวิตง หรือหากมีบ้างก็ 1 2 รายเท่านั้น ซึ่งก็เป็นผู้ป่วยรายเก่าที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเข้ารับการรักษามาระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งยอดผู้ป่วยในศูนย์ CI ก็มีการครองเตียงเพียงแค่ 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใกล้เคียงกับการครองเตียงของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ราวๆ 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ได้มุ่งเป้าความเป็นห่วงไปที่ สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือว่าเนอสเซอรี่ โดยได้บอกถึงแผนการเตรียมเปิดสถานดังกล่าวว่า และที่เป็นห่วงมากเพราะเป็นกลุ่มเด็กที่อายุน้อย แต่นโยบายของภาครัฐนั้นก็ให้สามารถเปิดได้ โดยอยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มข้น ซึ่งแต่ละสถานที่จะต้องเตรียมแผนเพื่อให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่ควบคุมดูแลหรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พิจารณาและอนุญาตให้เปิดได้
ส่วนหลักการคือเน้นเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับการป้องกันโรคเป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณามี 2 ด้าน คือ ด้านผู้ให้บริการ ที่ทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้ว เรื่องของสภาพแวดล้อมของสถานที่ก็ต้องถูกสุขลักษณะ สะอาด ปลอดโปร่ง ปลอดภัย จำนวนเด็กที่รับ และขนาดของสถานที่ต้องไม่แออัด นอกจากนี้ยังจะต้องมีแผนเตรียมพร้อมหากพบเจอเด็กติดเชื้อ ซึ่งหากสถานที่ใดพบการติดเชื้อก็จะต้องทำการปิดสถานที่นั้นทันที แล้วให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่กระบวนการควบคุมโรค แต่จะปิดกี่วันนั้นก็ขึ้นอยู่กับการระบาดในระยะนั้นๆ อีกด้วย
ขณะที่ในด้านผู้รับบริการก็คือครอบครัวของเด็กที่นำมาฝากดูแล ก็จะต้องได้รับวัคซีนกันครบทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือกลุ่ม 608 เพราะสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอีกอย่างคือ การติดเชื้อแล้วนำเชื้อไปให้กลุ่มเปราะบางในครัวเรือน ดังนั้น เมื่อเปิดสถานที่รับเลี้ยงเด็กได้ ก็อาจจะรับเด็กทุกคนเหมือนเดิมไม่ได้ จะรับได้เฉพาะครอบครัวที่เข้าตามเงื่อนไข
ดังนั้นผู้ปกครองหรือครอบครัวใดที่ต้องนำเด็กเข้าเนอสเซอรี่ จะต้องรับวัคซีนครบทุกคนแล้ว พร้อมกันนี้ก่อนจะนำเด็กไปฝากดูแลก็จะต้องมีการตรวจ ATK เด็กก่อน 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นเมื่อไปอยู่เนอสเซอรี่แล้ว จะต้องตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด และกิจการเนอสเซอรี่ก็จะได้เปิดกิจการได้อย่างปลอดภัยยาวนาน
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับมาตรการต่างๆที่กำหนดนั้น ก็เพื่อการควบคุมโรค เพราะช่วงนี้สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ แต่การดำเนินกิจการต่างๆก็ต้องเปิด เพื่อให้ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด