18 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 เวชภัณฑ์ยา การรักษาค่อนข้างพร้อม และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สิ้นเดือนตุลาคมนี้คาดว่า การฉีดวัคซีนโควิด จะครอบคลุมประชากรกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ โดยขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 580,000 โดส เหลืออีก 420,000 โดส ที่จะทยอยลงไปในพื้นที่จากเป้าหมาย 1 ล้านโดส มั่นใจจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีขึ้น
ขณะที่การเตรียมเปิดประเทศที่เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ นายอนุทินยืนยันมีความพร้อม โดยเฉพาะมาตรการ กระทรวงสาธารณสุขที่รองรับไว้แล้ว ทั้งการคัดกรองก่อนเข้าประเทศ เอกสารตามข้อกำหนดไทย และการฉีดวัคซีนโควิด รวมถึงระบบการติดตามระหว่างอยู่ในประเทศ ส่วนผลสำรวจจากดุสิตโพล ที่ออกมาระบุว่า มีประชาชนร้อยละ 60 ยังไม่พร้อมการเปิดประเทศ เนื่องจากกังวลการระบาดรอบใหม่ นายอนุทินระบุว่า ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรคที่จะต้องไปทำความชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน
นายอนุทิน ยังได้พูดถึงการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในกลุ่มประชาชนที่ได้รับวัคซีนทางเลือกเชื้อตายมาแล้วนั้น สามารถเข้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงสาสุขพร้อมให้บริการในส่วนนี้ โดยเป็นนโยบายที่ต้องการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอให้ซื้อยาโมนูลพิราเวียร์ จากประเทศอินเดียเนื่องจากราคาถูกกว่าสหรัฐอเมริกา นายอนุทินยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่แทงม้าตัวเดียว โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์จำนวนที่จะต้องจัดซื้อยาและประสิทธิภาพ / ไม่ได้ดูจากการโฆษณาชวนเชื่อ แต่ต้องซื้อตามความจำเป็นความสามารถในการรักษาเพื่อให้คุ้มค่ากับงบประมาณของประเทศและเกิดประโยชน์สูงสุดในการนำมารักษาประชาชน
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึง สำหรับประชาชนที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายยังคงแนะนำให้ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ที่เป็นเทคโนโลยีอื่น เช่น ไวรัสเวคเตอร์ และmRNA ส่วนข้อมูลที่ว่าฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนเชื้อตายนั้น นพ.โอภาส ระบุว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ไม่แนะนำให้ฉีดเข็มที่ 3 ที่เป็นเชื้อตายด้วยกันซ้ำ เนื่องจากกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ต่ำกว่าชนิด ไวรัสเวคเตอร์และmRNA
ส่วนประชาชนที่ฉีดวัคซีนทางเลือกเชื้อตายอื่นมาแล้วนั้น และต้องการกระตุ้นเข็ม 3 นายแพทย์ โอภาส ระบุว่า จะต้องดูระยะเวลาในการฉีดว่าครบกำหนดในการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ 3 หรือไม่ เช่นผ่านมาแล้ว 3-6 เดือน ก็ฉีดได้
ส่วนที่กระตุ้นด้วย mRNA ครึ่งโดส หรือ 50 ไมโครกรัม แม้จะมีงานวิจัยออกมาระบุว่าครึ่งน่าจะเพียงพอในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแต่ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าภูมิคุ้มกันนั้นจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ซึ่งทางคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันฯ จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนเต็มโดสคือ 100 ไมโครกรัม.