‘ไพบูลย์’พร้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน.ปมสถานภาพส.ส.20ต.ค.นี้

17 ตุลาคม 2564 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัย วันที่ 20 ต.ค.นี้ กรณีนายไพบูลย์ หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูป สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่พรรคประชาชนปฏิรูป สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง​ลง​ เป็นเหตุให้สถานภาพส.ส.ของนายไพบูลย์​จะสิ้นสุดลงหรือไม่ว่า​

"พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ​"

นายไพบูลย์ บอกด้วยว่า เชื่อมั่นในข้อกฎหมาย​ เพราะดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และตามรัฐธรรมนูญที่ประกาศ​ไว้ทุกประการ​ ​และดำเนินการผ่านหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงอย่างกกต. ซึ่งทางกกต.ตรวจสอบ​แล้ว​ ถึงให้มีหนังสือแจ้งไปยังสภาผู้แทนราษฎร​ 

ทั้งนี้ เอกสารและหลักฐานต่างๆ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดแล้ว​ 

อย่างไรก็ตาม วันที่มีการประกาศคำวินิฉัย​20​ ต.ค.นี้ ได้มอบหมายทนายความให้เป็นตัวแทนไปฟังแล้ว

 23 ธ.ค.63 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของส.ส.จำนวน 60 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 5) หรือไม่

จากกรณี นายไพบูลย์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคดังกล่าว แล้วไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 7) โดยที่ นายไพบูลย์ ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่ จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อกกต. ก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง  ไว้พิจารณาวินิจฉัย

เนื่องจากเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง เป็นไปตามมาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 7 (5) โดยให้นายไพบูลย์ ผู้ถูกกล่าวหายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมายังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง 

อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ นายไพบูลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. โดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยที่จะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.