พุ่งไม่หยุด!!โควิดชายแดนใต้เร่งขอไฟเซอร์1ล.โดสด้านสงขลาคุมเขตรอยต่อ
สงขลา-ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19พื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้พุ่งไม่หยุดยะลา 644 ราย,สงขลา621 ราย,ปัตตานี 561ราย และจ.นราธิวาส 459 ราย หนุนขอวัคซีนไฟเซอร์1ล้านโดสฉีดตุลาคม ล่าสุดผู้ว่าฯสงขลางัดมาตรการเข้มพื้นที่รอยต่อสงขลาเชื่อม3จังหวัดชายแดนใต้อีกรอบ
วันที่ 16 ต.ค. 64 สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 พื้นที่4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังน่าเป็นห่วงตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงต่อเนื่องติด1ใน 10 อันดับสูงสุดทั้งประเทศ จังหวัดยะลา 644 ราย ,สงขลา 621 ราย,ปัตตานี 561ราย และจ.นราธิวาส 459 ราย ส่งผลทำให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่เร่งรัดให้เร่งจัดหาวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1 ล้านโดสเพื่อให้ครอบคลุมจำนวนประชากร 70 % ให้เร็วที่สุด ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขได้รับปากไว้จะดำเนินการให้ภายในเดือนตุลาคมนี้
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สงขลามีจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงเฉลี่ย 400-600 คนต่อวันนานกว่าสัปดาห์ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตรวจเชิงรุก เช่นเดียวกับวันนี้ที่พบผู้ติดเชื้ออีก 621 รายและเสียชีวิต 2 รายยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมภายในจังหวัดไม่รวมคลัสเตอร์เรือนจำ38,000 รายเสียชีวิตสะสมรวม 171 รายส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อเป็นกลุ่มผู้สัมผัสที่กระจายตัวอยู่ในอ.หาดใหญ่ ,สะเดา และ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะพื้นที่รอยต่อจังหวัด
ล่าสุดได้กำชับตรวจเข้มคัดกรองการเคลื่อนย้ายผู้เดินทางจากเข้า-ออกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ในเส้นทางสายหลักที่เชื่อมโยงกัน เช่น ที่ด่านตรวจบ้านมุนี ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เชื่อมกับ อ.กาบัง จ.ยะลา และด่านตรวจบ้านโหนด ต.บ้านโหนด เส้นทางระหว่าง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา กับ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อสกัดการระบาดของโรค
โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคอยสอบถามความจําเป็นของผู้เดินทางก่อนเข้าพื้นที่ หากมีเหตุผลไม่เพียงพอ หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ก็จะไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีความเร่งด่วน หรือได้รับข้อยกเว้นเป็นแต่ละกรณีไป ซึ่งมาตรการเข้มพื้นที่รอยต่อ จ.สงขลาเชื่อมโยง 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีผลตั้งแต่ 15 ต.ค. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
