วันนี้ (15 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และน.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ออกจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากโหวตสวนมติพรรค และกรณีการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
นายสนธิญา กล่าวว่า ตนยื่นขอให้ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยมาจนขณะนี้รวม 3 ครั้ง โดยในครั้งนี้ยื่น กกต.ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยใน 2 ประเด็น คือ 1.ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยขับ 2 ส.ส.ออกจากพรรค เนื่องจากลงมติอภิปรายไม่วางใจในครั้งที่ผ่านมาสวนมติพรรค ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทยได้อ้างข้อบังคับของพรรคเพื่อไทยและขับ ส.ส.พ้นจากพรรคนั้น จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในมาตรา 5 ระบุว่า บทบัญญัติใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญใช้บังคับมิได้
นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 114 และ 124 ที่ระบุว่าการออกเสียงและลงคะแนนเป็นเอกสิทธิของส.ส. และมาตรา 224 (5) และ(6) ระบุให้อำนาจกกต.การพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ตลอดจนยังฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 14(4) ที่ระบุว่า ข้อบังคับพรรคต้องไม่มีลักษณะครอบงำเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนประเด็นกรณี ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ซึ่งถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่ากระทำการเรียกรับเงินต่ออธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 20 , 21 ,22 , 46 และมาตรา 92 (1)(2)(3) โดยขอให้กกต.พิจารณาเรื่องดังกล่าวส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคต่อเพื่อไทยต่อไป
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า วันนี้นอกจากตนมายื่นยุบพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังเข้าให้ข้อมูลต่อ กกต.ในการสอบสวน เรื่องที่ยื่นต่อ กกต.ก่อนหน้านี้และวันนี้ด้วยทั้งหมดรวม 9 ประเด็น เพื่อให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่ตนร้องเพื่ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ออกจากพรรค โดยให้เหตุผลว่าเป็นการพูดให้ร้ายพรรค ไม่ใช่เรื่องของการโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายสนธิญา กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะต้องมาชี้แจงต่อกกต.เพราะ ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคคนดังกล่าว ระบุว่าที่ตนถูกขับออกจากพรรคเนื่องจากโหวตสวนมติพรรค
ทั้งนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปดูข้อเท็จจริง แต่ไม่ว่ากฎหมายหรือข้อบังคับอะไรก็ตามหากขัดรัฐธรรมนูญก็บังคับใช้ไม่ได้ ซึ่งแม้แต่การอภิปรายต่างๆในสภาฯของ ส.ส. ต่าง ก็ได้รับเอกสิทธิ์ในการคุ้มครองตามกฎหมายและกลุ่มบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบก็ไม่สามารถฟ้องร้องได้