ตุลาคม 2564 เดือนแรกที่ กรมบัญชีกลาง ภายใต้หน่วยงานของ กระทรวงการคลัง ขยายวงเงิน ค่าน้ำ ค่าไฟ และ เบี้ยความพิการ หลังจากก่อนหน้านี้ ครม. อนุมัติ เห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 27,005.66 ล้านบาท
โดยกรมบัญชีกลาง พร้อมเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.5 ล้านคน ประจำเดือนตุลาคม 2564 และ เงินช่วยเหลือแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 เป็นกรณีพิเศษ
โดยในวันที่ 15 ต.ค. 64 สำหรับผู้ถือบัตรที่เติมเงินเข้าบัตร แล้วใช้เงินจากบัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่นๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยรัฐจะคืนภาษี VAT 5% ให้ผ่าน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"
ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำบัตรคนจนไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าฯ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมโครงการได้ผู้ที่เติมเงินเข้าบัตรคนจน แล้วใช้จ่ายเงินซื้อของจะได้รับเงินภาษี VAT 5% คืนเข้าบัตรตามยอดการใช้จ่าย เช่น
นอกจากนี้ ยังได้ ขยายสิทธิวงเงินค่าน้ำ และ ค่าไฟฟ้า ดังนี้
วันที่ 18 ตุลาคม 2564
ค่าไฟฟ้า ประมาณ 1.9 ล้านครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิ เท่านั้น)
ค่าน้ำประปา ประมาณ 186,625 ครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น)
สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
วันที่ 22 ตุลาคม 2564
ผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" จะได้รับเงิน 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565 เมื่อรวมกับ "เบี้ยความพิการ" ที่ได้รับจำนวน 800 บาท/คน/เดือน รวมเป็นจำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน
เงินจำนวนนี้สามารถ "กดออกมาเป็นเงินสดได้" โดยกรมบัญชีกลางได้กำหนดวันจ่ายเบี้ยความพิการเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนต่อ ๆ ไป ประมาณวันที่ 22 ของเดือน