ตำรวจมหาสารคามรวบหนุ่มวัย26 ปี ลักรถนายจ้าง

12 ตุลาคม 2564 เวลา 13.00 น. ที่งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม  พ.ต.ท.ไกรทอง  ชัยสิงห์  รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม  พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ  เศษสุ  สว.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม  และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม  ร่วมกันจับกุม  นายวิริยะพันธ์  ชุ่มใจ  หรือ ปอนด์  อายุ 26 ปี  ราษฎรตำบลพระลับ  อ.เมืองขอนแก่น  จ.ขอนแก่น  ภายหลังจากก่อเหตุลักทรัพย์  เป็นรถกระบะของนายจ้าง  เพื่อนำมาขาย  หาเงินสร้างบ้าน

พ.ต.ท.ไกรทอง  ชัยสิงห์  รองผู้กำกับการสืบสวน  สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม  กล่าวว่า  ได้รับแจ้งจากนายสมนึก  รัสสีดวง  อายุ 39 ปี  และนางสาวชนาภา  สวัสดิ์สุข  อายุ 38 ปี  เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดลูกแม่มังกรทราเวล  ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหัวโพ  อ.หนองแซง  จ.สระบุรี  ว่า  ลูกจ้างคือนาย  วิริยะพันธ์ ชุ่มใจ  หรือนายปอนด์  ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว  หมายเลขทะเบียน  บษ 78 สระบุรี  ซึ่งรถกระบะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ  มาส่งพัสดุแล้วไม่กลับเข้าบริษัท  และไม่ส่งรถยนต์คืน  เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย  จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตาม  ภายหลังจากทราบว่านายปอนด์ได้เดินทางมาที่จังหวัดมหาสารคาม  เพื่อมาขายตู้ทึบที่ร้านรับซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม  ก่อนที่จะนำรถไปขายให้กับร้านรับซื้อรถมือสองในจังหวัดขอนแก่น ตกลงราคากันไว้ที่ 120,000 บาท  โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่  บ้านสงเปลือย  หมู่ 9  ต.เขวา  อ.เมือง  จ.มหาสารคาม  ก่อนนำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองมหาสารคาม  โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลักทรัพย์นายจ้างจริง  เพื่อที่จะนำรถนายจ้างมาขายเพื่อที่จะนำเงินไปสร้างบ้าน

ด้านนายสมนึก  รัสสีดวง  นายจ้างที่เดินทางมาจากจังหวัดสระบุรี  เล่าว่า  ตนเองติดต่อกับนายปอนด์ไม่ได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายสามของวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา  ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.  ได้มีโทรศัพท์เข้ามาหาตน  ถามว่าจะนำตู้ทึบมาส่งให้ตอนไหน  จึงได้เอะใจ  และสอบถามปลายสายกลับไปว่า  รถมีลักษณะเป็นอย่างไร  คุยไปคุยมา  ก็ปรากฏว่าเป็นรถของตนเอง  จึงมั่นใจว่าถูกนายปอนด์  ขโมยรถไป  และจะนำตู้ทึบไปขายให้ร้านรับซื้อที่จังหวัดมหาสารคาม  จึงได้ขอร้องให้ทางร้าน  ช่วยประวิงเวลา  และเพิ่มมูลค่าตู้ทึบ  จากที่ตกลงกับนายปอนด์ไว้ 6,500 บาท  ให้เพิ่มเป็น 8,000 บาท  ทำให้นายปอนด์หลงเชื่อ  และไม่ไปขายที่อื่นก่อนที่จะถูกตำรวจจับได้

ซึ่งตนถือว่าโชคดีมาก  เนื่องจากว่า  ร้านรับซื้อตู้ทึบได้โทรศัพท์เข้าเครื่องของนายปอนด์  แต่นายปอนด์ปิดเครื่อง  และปรากฏว่าโทรศัพท์นายปอนด์  ได้ตั้งค่าการโอนสายมาที่โทรศัพท์ของตนเอง  จึงได้มีการพูดคุยและวางแผนจับกุมร่วมกัน  ซึ่งนายปอนด์เพิ่งจะมาทำงานได้ประมาณ 10 วัน  ตนให้เงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท  กินฟรี  อยู่ฟรี  มีที่พักให้  อยู่มา 10 วัน  ขอเบิกเงินไปแล้ว 2,000 บาท  ตนก็ให้เบิก แล้วยังมาทำกันแบบนี้  เมื่อคืนนี้ขับรถมาจากสระบุรี  รู้สึกเคว้งคว้างมาก  เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร  ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน  จนได้มาประสานกับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยจับกุม  ซึ่งถือว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้รถขึ้น  อยากจะบอกกับลูกน้องคนนี้ว่า  อย่าทรยศกับอาชีพตัวเอง  อย่าทรยศนายจ้าง  หรือถ้าเราเป็นเจ้าของรถ  เราก็อย่าทรยศกับคนจ้างงานเรา  คนอื่นเค้าเดือดร้อน  หากมีโอกาสกลับมาจับพวงมาลัยอีกครั้ง  ก็อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก

ด้านนายวิริยะพันธ์  ชุ่มใจ  ลูกจ้างตัวแสบ  บอกว่า  ที่ตัดสินใจทำลงไปเพราะคิดถึงลูกอยากกลับไปหาลูก  ที่ต้องเอารถไปขายเพราะไม่มีเงินใช้  เพิ่งมาทำงานได้ 10 กว่าวัน  นายจ้างก็ดี  งานสบาย  ก็ต้องขอโทษนายจ้างด้วย  ออกมาจกลับตัวเป็นคนดี  จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์นายจ้าง  หรือรับของโจร  จากนั้นได้นำตัวส่ง ร.ต.อ.ยุทธนา ลาดสีโท  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย -  เอนก กระแจ่ม