สธ.รอเคาะฉีดไฟเซอร์เข็ม 2 กลุ่มนักเรียน 12-17 ปี

10 ตุลาคม 2564 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาอายุ 12-17 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 150,190 คน คิดเป็น 3.3 % ของเป้าหมาย 4.5 ล้านคน

ในของส่วนอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ที่ผ่านมาในไทยพบ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว แต่อาการไม่รุนแรงและรักษาหาย โดยผู้ที่รับวัคซีนไฟเซอร์ หากเป็นกลุ่มที่อายุน้อย จะต้องเฝ้าระวัง หากสงสัยว่าอาจจะเป็นอาการไม่พึงประสงค์ เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเช่น แน่นหน้าออก เจ็บหน้าอก หอบ เหนื่อยง่าย หมดสติ เป็นลม ใจสั่น ให้แจ้งผู้ปกครองหรือครูทันที
 

ขณะเดียวกันครูหรือบุคลการทางการแพทย์ ต้องให้ข้อมูล อธิบายถึงอาการที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนหรืออากรที่มีโอกาสเกิดความรุนแรง ที่กังวลคืออาการที่เกี่ยวข้องกับกล้าเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ส่วนอาการอื่นสามารถรักษาให้หายได้ ไม่ต้องกังวล

นพ.โสภณ ระบุว่า จำนวนวัคซีนที่คาดว่าจะมาในเดือนตุลาคมนี้ จะมีซิโนแวค แอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ จำนวน 24 ล้านโดส และเดือนพฤศจิกายน จำนวน 23 ล้านโดส และธ.ค.นี้จำนวน 24 ล้านโดส และวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาในเดือนตุลาคมนี้จำนวน 6 ล้านโดส เดือนพฤศจิกา และธันวาคมนี้ เดือนละ 12.5 โดส ส่วนโมเดอร์นาจะเข้ามาในเดือนพฤศจิกา-ธันวาคมนี้ จำนวน 2 ล้านโดส

ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 ให้เด็กผู้ชายหรือไม่ หลังมีข้อมูลข้างเคียงของวัคซีนชนิด mRNA ที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ข้อมูลทั่วโลกอยู่ที่ 6 คนต่อการฉีด 100,000 โดส พบมากในเด็กผู้ชาย ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะหายเองได้

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขฉุกเฉิน กรณีโรคโควิด-19 หรือ EOC ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน จะพิจารณาความเป็นไปได้ถึงการใช้วัคซีนสูตรไขว้แอสตราเซเนกาตามด้วยไฟเซอร์ แต่ก็มีแนวโน้มจะมีสูตรไขว้เพิ่มขึ้น จากจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามาจำนวนมากในตุลาคม - ธันวาคมนี้