ย้อนรอย "รถจีโน่" รับมือ "ม็อบ 3 นิ้ว" พังเสียหายรอซ่อม 5 คัน
ไล่ย้อนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุทำให้ "รถจีโน่" พังเสียหาย 5 คัน จนต้องส่งซ่อมแบบแพงหูฉี่ มูลค่ากว่า 47 ล้านบาท
เป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ที่การชุมนุมทางการเมืองเป็นไปอย่างเข้มข้น ไล่เรียงตั้งแต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว มาจนถึงขบวน “คาร์ม็อบ” ของนักจัดกิจกรรมรุ่นเก่า กระทั่งปัจจุบันนี้ เกิดการกลายพันธุ์ผ่าเหล่าเป็นเยาวรุ่น “ทะลุแก๊ส” ที่เน้นเอาร่างกายมา “ปะทะ” มากกว่าเนื้อหาการชุมนุม
สิ่งหนึ่งที่เป็นภาพคุ้นตาของการชุมนุมในสมัยนี้ คงหนีไม่พ้นควันสีเทาของ “แก๊สน้ำตา” และการเคลื่อนขบวนของรถฉีดน้ำแรงดันสูงควบคุมฝูงชน หรือที่เรียกว่า “รถจีโน่” โดยเฉพาะอย่างหลัง ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อต่อสู้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ
ซึ่งผลจากการใช้ภารกิจรับมือม็อบ พบว่าขณะนี้มี “รถจีโน่” พังเสียหายทั้งหมด 5 คัน โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา มีหนังสือหลุดเรื่อง “ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างซ่อมแซมรถฉีดน้ำแรงดันสูงควบคุมฝูงชน” โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.น.ปฏิบัติราชการแทน ผบช.น.เป็นผู้เซ็นหนังสือ
เบื้องต้นบริษัท “เค ทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด” ที่เคยชนะการจัดซื้อจัดจ้าง รายการซื้อ “แก๊สน้ำตา” ให้กับกองสรรพวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 22 ล้านบาท เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เป็นบริษัทที่ผ่านเกณฑ์จัดซ่อม “รถจีโน่” 5 คัน ที่มีการเสนอราคาอยู่ที่ 47,080,000 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า “รถจีโน่” 5 คัน พังเสียหายระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม 4 ฝ่าย นำโดย “คณะราษฎร” ที่รัฐสภา ถ.สามเสน และแยกเกียกกาย เมื่อช่วงบ่ายต่อเนื่องตอนค่ำวันที่ 17 พ.ย.2563 เพื่อกดดันให้ที่ประชุมรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ
โดยความเสียหายหลักๆ อยู่ที่ถังน้ำมัน ที่ถูกกรอกทราย และเศษขยะลงไป ทำให้เครื่องยนต์พังเสียหาย ขณะที่ภายในรถมีแผงวงจรระบบควบคุมโดนราดน้ำใส่ และถูกตัดสายไฟทิ้งทั้งหมด ไม่นับรวมสีสเปรย์ที่มีการพ่นข้อความด่าทั่วรถ
จากการชุมนุมครั้งนั้น นอกจาก “รถจีโน่” พังเสียหายแล้ว ยังมีรถเติมน้ำ และรถควบคุมผู้ต้องหา พังเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับ “รถจีโน่” นำเข้ามาจากประเทศเกาหลีใต้ ราคาคันละ 25 ล้านบาท คุณสมบัติเด่น มีล้อกันกระสุน และตะแกรงป้องกันกระจกรอบคัน รวมถึงที่กั้นเหล็กหน้ารถ ที่ใช้เคลียร์สิ่งกีดขวาง และติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบคับ
อาวุธสำคัญของ “รถจีโน่” คือ กระบอกฉีดน้ำ ที่ตั้งอยู่บนหลังคา บรรจุน้ำได้มากถึง 12,000 ลิตร แรงฉีดน้ำสามารถยิงระยะไกลได้สูงสุด 65 เมตร โดยน้ำยังผสมใส่สี และแก๊สน้ำตา เพื่อช่วยคัดแยกผู้ชุมนุมออกจากประชาชน และระงับเหตุการชุมนุมได้
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเครื่องเสียงความถี่สูง หรือที่เรียกว่า LRAD (Long Range Acoustic Device) หรือเครื่องขยายเสียงระดับไกล นำมาใช้ในการปราบจลาจล โดยการส่งสัญญาณเตือน ไม่ให้มวลชนบุกรุกเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม