พลังงานจ่อดึงเงินกองทุนฯ ‘ตรึง‘ ดีเซล 30 บาท
กระทรวงพลังงานเตรียมรับมือน้ำมันราคาพุ่ง เล็งใช้เงินกองทุนพยุงราคาบี 10 ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ลุ้น 4 ต.ค. โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตฉุดราคาน้ำมันดิบลดลง
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ.วัฒนพงษ์ คุโรวาท ระบุ ขณะนี้ กระทรวงพลังงานกำลังหารือแนวทางรับมือกรณีที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลบี 10 ที่เป็นน้ำมันดีเซลหลักของประเทศ และเป็นต้นทุนภาคการขนส่งสินค้า ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ก็จะมีการใช้กองทุนน้ำมันเข้ามาดูแลราคาดีเซลบี 10 ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคการขนส่ง
“เรื่องกองทุนน้ำมัน กระทรวงพลังงานกำลังหารือแผนรับมือในกรณีที่แนวโน้มน้ำมันตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาอีก โดยจะเข้าไปดูแลเฉพาะน้ำมันดีเซลบี 10 เท่านั้น เพราะเป็นน้ำมันหลักของประเทศ ส่วนน้ำมันดีเซลบี 7 ก็จะมาดูอีกทีว่าจะช่วยพยุงราคาหรือปล่อยเป็นไปตามกลไกตลาด”
อย่างไรก็ตาม สนพ.ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อช่วง 5 วันที่ผ่านมา และเพิ่งจะมีผลกับราคาน้ำมันในประเทศไทยเป็นผลกระทบจากความกังวลระยะสั้น จากการคลี่คลายเรื่องสถานการณ์โควิด 19 ทำให้มีการคาดการณ์ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และความกังวลของสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯลดลงที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮริเคน แต่ปัจจุบันแนวโน้มเริ่มลดลง
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดคือการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ต.ค. 2564 ว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ หากมีการปรับเพิ่ม คาดว่าราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบช่วงปลายปีจะอยู่ที่ระดับ 72-75 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของไทยให้สูงกว่า 30 บาท/ลิตร
ส่วนราคาก๊าซหุงต้มที่ใช้ในภาคครัวเรือนนั้น แนวโน้มราคาแอลพีจีอาจปรับตัวสูงสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวของภูมิภาคตะวันตก อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 318 บาท/ถัง ขนาด 15 กก. ถึงสิ้นปี 2564
ด้านโฆษกกระทรวงพลังงาน สมภพ พัฒนอริยางกูล ระบุ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกบน.ครั้งล่าสุด ที่ประชุมซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ เป็นประธาน ได้หารือถึงแนวทางรับมือราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น โดยให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมหากส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน หลังแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทรงตัวในระดับสูงมาก
ส่วนกรอบวงเงินช่วยเหลือราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีที่ตรึงราคา 318 บาท/ถัง ขนาด 15 กก.ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจเพิ่มกรอบการดูแลจาก 1.8 หมื่นล้านบาทเป็น 2 หมื่นล้านบาทแต่อย่างใด แต่ให้ศึกษาการเตรียมวงเงินอุดหนุน ซึ่งปัจจุบันใช้วงเงินดูแลกว่า 1.7 หมื่นล้านบาทแล้ว