ขยะใหม่ของโลก - สาหร่ายสีน้ำตาลบุกเม็กซิโก

เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นที่รัฐกินตานาโรของเม็กซิโก เรือของกองทัพเรือเม็กซิโกก็ถูกส่งทะเลออกไปอีกวัน เพื่อลากเอาแพขนาดมหึมาของสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลกลับขึ้นฝั่ง เพื่อนำไปยังส่วนที่อยู่ห่างไกลจากสายตาของนักท่องเที่ยวที่นั่ง ๆ นอน ๆ จิบค็อกเทลอยู่

กองทัพเรือได้ประสานงานกับทางรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อการดูแลรักษาชายหาดของกินตานาโรให้สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องธุรกิจการบริการและการค้าขายกับผู้มาเยือนมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของสภาธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งชาติเม็กซิโก

เพราะเมื่อถูกพัดขึ้นฝั่ง พืชที่รู้จักกันในชื่อสาหร่ายทะเลซาร์กาสซัม จะเปลี่ยนเป็นสีดำ และส่งกลิ่นเหม็นคล้ายน้ำเน่าที่รุนแรงมากเสียจนเป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถทำให้นักท่องเที่ยวป่วยได้เลย มันยังดึงดูดแมลงและเปลี่ยนน้ำทะเลสีฟ้าครามที่มีชื่อเสียงของพื้นที่แห่งนี้ ให้เป็นสีน้ำตาลอ่อน ที่ไม่น่าดูชม

และมันก็เข้ามาเรื่อย ๆ โดยนับตั้งแต่ปี 2554  สาหร่ายทะเลทั้งที่นี่ และทั่วทั้งทะเลแคริบเบียนได้แพร่พันธุ์ออกมามากมายเหลือคณา จากเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ ก็ยังสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่พวกเขายังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้

ในกินตานาโรเพียงแห่งเดียว ตั้งแต่เดือนมีนาคม กองทัพเรือเม็กซิโกได้กำจัดสาหร่ายทะเลซาร์กาสซัม ไปมากกว่า 37,000 ตัน ซึ่งเป็นน้ำหนักเท่ากับหอไอเฟลถึง 3 หอ ออกจากชายหาดและน่านน้ำโดยรอบ

ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการทั่วทั้งภูมิภาค ต่างก็กำลังค้นหาวิธีสร้างรายได้จากขยะดังกล่าว พวกเขากำลังทดลองกับผลิตภัณฑ์จากสาหร่าย เช่นอาหารสัตว์ วัสดุก่อสร้าง แม้กระทั่งค็อกเทลสูตรเฉพาะ

แต่ ดร. โรซ่า โรดริเกส บอกว่าเม็กซิโกต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่มากกว่านี้ เพื่อที่จะสร้างอุตสาหกรรมซาร์กัสโซที่เหมาะสม " ในทางอุดมคติแล้ว เราจะต้องมีอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้มันเป็นจำนวนมาก เพราะซาร์กาสซัมจำนวนหลายพันตันมาถึงที่นี่ทุกปี"

ไม่ว่าความพยายามดังกล่าวจะพิสูจน์ว่าเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไรนั้น ก็ยังต้องรอดูกันต่อไป เพราะธุรกิจการค้าสาหร่ายทะเลเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากการเก็บรวบรวมสาหร่ายทะเลมีค่าใช้จ่ายสูง และการขาดกฎระเบียบของรัฐบาลเกี่ยวกับเทคนิคการเก็บเกี่ยว แต่ถึงกระนั้น ความคิดสร้างสรรค์ก็เบ่งบานไปพร้อมกับสาหร่าย

ที่เมืองปูเอร์โต โมราเลส ของเม็กซิโก สาหร่ายกำลังถูกแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้าง อิฐ " ซาร์กาสซัม " ที่อบในแสงแดด สามารถนำมาใช้สำหรับการสร้างบ้านแทนบล็อกซีเมนต์แบบดั้งเดิมได้ดี

สาหร่ายซาร์กาสซัม เป็นที่เลื่องลือกันว่าพบได้มากที่สุดในทะเลซาร์กาสโซ ทางเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก โดยมีการบันทึกเรื่องนี้ไว้หลายร้อยปีแล้ว แต่มันเดินทางมายังทางใต้สู่มหาสมุทรแอตแลนติกเขตร้อนได้อย่างไรนั้น ยังไม่มีความชัดเจน

นักวิทยาศาสตร์บางคนได้ตั้งทฤษฎีว่าฤดูพายุเฮอริเคนที่รุนแรงในปี 2553 อาจพัดพาพวกมันจำนวนหนึ่งมายังแอตแลนติกตะวันตกตอนกลาง และได้ขยายพันธุ์มันสำหรับแนวสาหร่ายซาร์กาสซัมแห่งใหม่

ไม่ชัดเจนว่าเหตุใด ซาร์กาสซัมแห่งแคริบเบียนจึงได้ขยายพันธุ์ออกมาเป็นจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์บอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางน้ำ การตัดไม้ทำลายป่าในแถบอะเมซอน และฝุ่นที่พัดมาจากทะเลทรายซาฮารา ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่มีแนวโน้มจะทำให้มันเป็นแบบนี้