“ฝ่ายค้าน”นัด 4 ต.ค. ยื่น ป.ป.ช.เชือด“ประยุทธ์-ครม.”

29 ก.ย.2564  พรรคร่วมฝ่ายค้าน  นัดหารือกันที่พรรคเพื่อไทย โดยมีเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง, ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน 

ศรีแก้ว , เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน , เลขาธิการพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ,ที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ ธงชาติ รัตนวิชา , หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นิคม บุญวิเศษ , ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ  สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ร่วมประชุม วาระสำคัญ ที่เกี่ยวเนื่องมาจากการการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมา

โดยวันนี้ มีการลงนามของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เอาผิด คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ,เอาผิดนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ,รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล เรื่องการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ , การผูกขาดเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า , การทุจริตการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค , เรื่องส่อไปในทางทุจริตการจัดซื้อชุดตรวจ ATK และการบริหารจัดการวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพ , ส่วนในรายของรัฐมนตรีเกษตรฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เรื่องทุจริตเกี่ยวกับยางพารา  โดยได้นัดหมายยื่น ป.ป.ช.ในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. เวลา 10.00 น.

ที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ ธงชาติ รัตนวิชา ขยายความถึงประเด็นเอาผิดต่อ รัฐมนตรีเกษตร เฉลิมชัย ศรีอ่อน กรณี ทุจริตราคายางพารา ที่ต่ำกว่าปกติ และส่อไปในทางทุจริต  เอื้อประโยชน์แก่ ผู้รับซื้อยางพาราเพียงรายเดียว ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินประมาณ 6 พันล้านบาท  ในการจ่ายชดเชย ทั้งยังผิดกฎหมายการยางว่าด้วยการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เพราะขายราคาต่ำ  รวมถึงมีกสมคบคิดกันขายยางในราคาต่ำ  โดยนำยางคุณภาพดี มาคละกับยางที่มีคุณภาพต่ำ เพื่อขายคละเกรดทำประเทศเสียประโยชน์ และทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน

ด้าน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เตรียมยื่นเอาผิด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , ส.ส.รังสิมันต์ โรม ยื่นเอาผิด รัฐมนตรีชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์  กรณีแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ  ในข้อพิพาทระหว่างกระทรวงฯ กับไทยคม นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพยายามเข้าไปล้วงข้อมูลส่วนบุคคล

พรรคฝ่ายค้าน ยังได้สรุป  เรื่องการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระดำรง ตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามบทบัญญัติมาตรา 158 วรรคสี่  ที่ระบุ ว่า  นายกรัฐมนตรีมีวาระไม่เกิน 8 ปี เพื่อไม่ให้ผูกขาดอำนาจ กฎหมายเขียนชัด  จึงควรต้องตีความลายลักษณ์อักษรอย่างเคร่งครัด และไม่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่หากต้องยื่นตีความ ส.ส. ก็เตรียมจะเข้าชื่อกันตามมาตรา 82  เพื่อตรวจสอบ ว่า นายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 หรือไม่ และพรรคฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งต่อไป