27 กันยายน 2564 ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามบ้านตะโก ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติ และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดเฉลิมพระเกียรติ ร่วมตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Nsr 150 RR สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในสภาพล้มคว่ำพังเสียหายอยู่บริเวณหญ้าเกาะกลางถนน ใกล้กับพบร่าง น.ส.ประนอม แย้มกรณ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายนอนเสียชีวิตในสภาพแขนขาและคอหัก ทั้งนี้ยังพบนายประณี หมายเจริญ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะรีบนำส่ง รพ.นางรอง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งยังไม่ทราบว่าบุคคลทั้งสองจะเดินทางไปไหน ทราบเพียงว่าเป็นชาว อ.ลำดวน จ.สุรินทร์
ส่วนรถคู่กรณีคือ กระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีบอร์น ทะเบียน บม-5497 สุรินทร์ จอดห่างจากจุดเกือบ 100 เมตร สภาพฝากระโปรงด้านหน้าเปิดเนื่องจากแรงกระแทกจากการพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ส่วนคนขับ และเพื่อนที่นั่งมาในรถกระบะคัน 4 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบถามนายจตุรงค์ หน้านวล อายุ 20 ปี คนขับรถกระบะ เล่าว่า เดินทางมาจากจ.สุรินทร์กับเพื่อน 4 คน ไปทำงานขุดเจาะบ่อบาดาลที่อยุธยา แต่พอมาถึงสามแยกจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสัญญาณไฟเขียวพอดี ขับมุ่งหน้าไปทางอำเภอนางรองตามปกติ แต่รถจักรยานยนต์คู่กรณีก็ขับย้อนศรและฝ่าไฟแดงออกมาแบบกระชั้นชิด จึงเบรกไม่ทันทำให้พุ่งชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเต็มแรง ก็ตกใจไม่คิดว่าจะมีรถย้อนศรและฝ่าไฟแดงมาตัดหน้าจนทำให้เกิดเหตุสลด
ซึ่งก็สอดคล้องกับหลักฐาน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสามแยกจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสี่เลน ก็พบว่ารถจักรยานยนต์ได้ขับย้อนศรมาจากอีกฝั่งถนน มาตรงจุดยูเทินของสามแยกตะโก แต่ก็ไม่ได้จอดหรือชะลอกลับขับย้อนศรมายังอีกฝั่งของถนน ทั้งยังฝ่าสัญญาณไฟแดงด้วย ซึ่งเป็นช่วงที่รถกระบะขับมาทางตรงและมาตามสัญญาณไฟเขียวปกติ ก็ได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์คันที่ย้อนศรเต็มแรงจนคนขับและคนซ้อนกระเด็นตกจากรถร่างกระแทกพื้น จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
ทั้งนี้จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายของคนขับรถกระบะ แต่ไม่พบแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุก็เป็นอุทาหรณ์เตือนสติสำหรับคนที่ชอบขับรถย้อนศร และฝ่าสัญญาณไฟ ซึ่งเป็นความประมาทที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้