หิ้วผู้ต้องหาทำแผนคดีข่มขืนสาวใหญ่แล้วฆ่า

25 กันยายน 2564 จากกรณีที่ญาติเข้าร้องสื่อ หลังสงสัยว่านางสาวเอมอร เพชรกาศ ญาติสาวใหญ่วัย 51 ปี เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเสียชีวิตในบ้านพักเลขที่ 351 /5 ม.1 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 19 กันยายน และพบศพเมื่อวันที่ 20 กันยายน เวลา 10.50 น. โดยนายจ้างสงสัยผิดสังเกตที่ผู้ตายไม่มาทำงาน ด้วยความเป็นห่วงจึงตามไปที่บ้านพัก ประกอบกับปิดโทรศัพท์ จนกระทั่งพบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตบริเวณช่วงพักของขั้นบันได

พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ขำผุด ผกก.สภ.ตะโหมด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 4 คนประกอบด้วย นายธวัชชัย อังคะสะเร หรือเคี่ยม หรือบ่าว อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 33/ 7 หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด นายเอกชัย แซ่ปึ้ง หรือป๋อง อายุ35ปี 452/8 หมู่6 ต แม่ขรี อ.ตะโหมด นายธีรพงค์ จันทร์แก้ว หรือเค 35ปี 33/7 หมู่6 ต แม่ขรี อ.ตะโหมด ใน และนายยงยุทธ เพ็งสุวรรณ์ หรือหัวบอน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 350/1 ม.1 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย , ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกระทำความผิด ด้วยอันมีลักษณะ เป็นการโทรมหญิง

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายยงยุทธ จันทร์แก้ว หรือนายหัวบอน อายุ 32 ปี 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ ข่มขืนและฆ่านางสาวเอมอร เพชรกาศ หรือป้าหญิง อายุ 51 ปี ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่ 351/5 หมู่ 1 ตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จังหวัดพัทลุง ซึ่งในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกมาชี้จุดการก่อเหตุ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านและญาติๆของผู้เสียชีวิตประมาณ 100 คนต่างตะโกนด่าทอ และสาปแช่งผู้ต้องหาพร้อมจะเข้ารุมประชาฑัณท์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำตัวผู้ต้องขึ้นรถออกไปจากที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ขำผุด ผกก.สภ.ตะโหมด บอกว่า โดยเบื้องต้นนายยงยุทธ ฯ หรือนายหัวบอล ให้การรับสารภาพว่า ก่อเกิดเหตุ2วันช่วงที่นางสาวเอมอร ฯ เจ้าของบ้านไปทำงานแม่บ้านที่ร้านถ่ายเอกสารหน้าที่ว่าการอำเภอตะโหมด นายหัวบอน ได้แอบปืนเข้าไปบ้านของนางสาวเอมอร และไปรื้อค้นขโมยทรัพย์สิที่ค่ามาได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ได้เห็นว่าภายในห้องนอนของนางเอมอร ฯ มีตู้เซฟ อยู่ จึงได้วางแผนร่วมกับเพื่อน อีก 4 คน และปีนเข้าไปในบ้านของเอมอร โดยใช้คีมงัดหน้าต่างหลังบ้านในคืนวันที่ 19 กันยายน 2564 เมื่อขึ้นก็พังประตูห้องนอนเห็นนางสาวเอมอร ฯ นอนอยู่บนที่นอน ก็ได้ทำร้ายร่างกายพร้อมช่วยกันจับและรุมข่มขืน โดยทั้ง 4 คนช่วยกันจับแขนขา ให้นายป๋องและนายเคี่ยม ลงมือข่มขืน จากนั้นทำร้ายร่างกายจนนางเอมอร ฯ สลบ และช่วยกันหามร่างมาโยนทิ้งลงบันใดชั้นสองของบ้านให้ตกมาด้านล่างเพื่ออำพรางคดี ก่อนจะรื้อค้นเอาทรัพย์สินมีค่าของนางสาวเอมอร ฯ จากนั้นนายหัวบอนเปิดประตูด้านหน้าเพื่อดูว่ามีคนอยู่หน้าบ้านหรือไม่ แต่ทั้งหมดก็ปีนกลับออกมาทางหน้าต่างด้านหลัง พากันไป แบ่งทรัพย์สินกันที่บ้านของนายหัวบอล ซึ่งเปิดเป็นโรงกลึงติดกับบ้านนางสาวเอมอร ฯ ผู้เสียชีวิต ก่อนแยกย้ายกันไปนอนที่บ้านของนายพีรพงษ์ หรือ เค 1 ใน 4 ผู้ต้องหา สำหรับทรัพย์สินที่หายไปก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากผู้ตายอยู่เพียงคนเดียว ส่วนตู้เซฟก็ยังอยู่ ต้องรอญาติจัดการหลังจากจัดงานศพเรียบร้อยก่อน

นายสงคราม วิทยารัตน์ อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ตนโล่งใจมากที่จับแก็งค์พวกนี้ได้ ชาวบ้านแถวนี้กลัวมาก ไม่มีใครอยากยุ่ง บนตนเป็นหลังแรกที่ถูกแก็งค์นี้งัดบ้านขโมยทรัพย์สิน จากนั้นก็มีบ้านอื่นในละแวกเดียวกัน โดยเฉพาะนายหัวบอนเพิ่งพ้นโทษมาในคดีฆ่าผู้อื่นและค้ายาเสพติด หากจับตัวไปครั้งนี้ชาว้านก็อยู่กันเป็นสุข
 

อย่างไรก็ด็ พ.ต.อ.ทวัศักดิ์ ผกก สภ ตะโหมด บอกว่าด้วย สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตามหมายจับ ในเบื้องต้นนายยงยุทธ หรือนายหัวบอล ให้การรับสารภาพ ในขณะที่อีก 3คน ยังคงปฏิเสธยืนยันจะให้การชั้นศาลส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังมีการสอบขยายไปอีกว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ ในขณะที่ญาติจะทำการเผาศพนางสาวเอมอร ฯ ในบ่ายวันนี้ ที่วัดแม่ขรี

ภาพ/ข่าว โดย:
ลัดดา มณีรัตน์ จ.พัทลุง