DSI รับรุกสวนป่าบางขนุนภูเก็ต เป็นคดีพิเศษ

25 กันยายน 2564 ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อนุมัติให้กรมอาชีวศึกษา ใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุน เป็นพื้นที่เพื่อจัดการศึกษา ตามความเห็นของ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อ ปี 2539 และกรมป่าไม้ อนุญาตให้ใช้พื้นที่เมื่อเดือนมกราคม 2540 ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 พรรษา โดยที่อัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ที่ดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนผลอาสินให้ผู้ที่บุกรุกทำกินในพื้นที่ เป็นเงินกว่าหนึ่งล้านบาท บนพื้นที่ 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา

ต่อมา ปี  2541-2542 กลุ่มบุคคล มีทั้งข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และญาติพี่น้อง นักการเมืองระดับชาติกลุ่มแกนนำมวลชน ได้ใช้อุบายในการเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้น อนุมัติจัดการสำรวจพื้นที่ป่า หรือที่เรียกย่อว่า แบบสำรวจ ทป.4 โดยที่ไม่ทราบว่า เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายป่าไม้หรือไม่ และ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตสมัยนั้นเห็นชอบโครงการหรือไม่ หรือเป้าประสงค์เพียงแต่ต้องการรู้ว่ามีการบุกรุกครอบครองป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุน กันจำนวนมากน้อยประการใด

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กรมอาชีวศึกษา ได้นำเงินงบประมาณแผ่นดินชดเชยค่าผลอาสินให้กับผู้บุกรุกทำกินแล้ว และการสำรวจทป.4 เกิดหลังการอนุมัติอนุญาตให้ใช้พื้นที่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในปี 2563 ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งย้ายมารับตำแหน่งใหม่ และมีความจำเป็นในการสำรวจพื้นที่เพื่อต้องการรักษาพื้นที่ และเพื่อใช้พื้นที่ในการพัฒนาจัดการเพื่อการศึกษาก็ปรากฏว่าพบการบุกรุกพื้นที่หลากหลายรูปแบบ จึงได้จัดทำโครงการป่าดิบชื้นคืนเกาะขึ้นเพื่อแสดงกรรมสิทธิ์การถือครอง

แต่ปรากฏว่าถูกกลุ่มบุคคลต่อต้านและแสดงสิทธิ์โดยใช้แบบ ทป.4 มายืนแสดงสิทธิ์ครอบครองแย้งสิทธิ์จากวิทยาลัยเทคนิคถลาง และการที่วิทยาลัยไม่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายป่าไม้ที่ดินและแนวเขต จึงได้ประสานการปฎิบัติไปยังกรมป่าไม้ ผ่านผู้อำนวยการศุนย์ป้องกันและปราบปราม 4 กรมป่าไม้ และ ร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ในเวลาต่อมา พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีDSI ได้สั่งการโดยคำสั่งสืบสวนที่ 280/2563 แต่งตั้งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง  ปรากฏว่าพบกลุ่มบุคคลใช้หลักฐานการใช้เอกสาร ปท.4 แย้งสิทธิ์การครอบครองของวิทยาลัยเทคนิคถลาง และมีรูปแบบการบุกรุกครอบครองกดดันผู้บริหารและบุคลากรของวิทยาลัยหลายรูปแบบ  

และพบหลักฐานว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่าบางขุนนที่กรมป่าไม้ใช้เงินงบประมาณไปดำเนินการปลูกป่า เป็นพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ เกือบเต็มพื้นที่ 

รายงานระบุอีกว่า หลังจากนั้นคณะเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวน สรุปรายละเอียดข้อมูล และมติที่ประชุมเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษเนื่องจากพบว่าเข้าพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษพื้นที่ถูกบุกรุกครอบครอง จากกลุ่มบุคคลมากกว่า 100 ไร่ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษ  อธิบดีDSI มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีDSI ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง ดูพื้นที่จริงด้วยตัวเอง ก่อนการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษซึ่งมี พ.ต.ท.สุภัทธ์ เป็นประธานกรรมการ และ คณะกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษลงมติมีความเห็นรับคดีบุกรุกวิทยาลัยเทคนิคถลางเป็นคดีพิเศษ และ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 นี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ได้ลงนามรับคดีบุกรุกพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง ที่มี ไว้เพื่อจัดการศึกษา เป็นคดีพิเศษตามความเห็นของคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่สืบสวนและคณะกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษเสนอ
     

นายจำรูญ เกิดดำ ประธานชมรมอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน รองประธานโครงการป่าดิบชื้นคืนเกาะ วิทยาลัยเทคนิคถลาง  เปิดเผยว่า ทราบความคืบหน้ามาเป็นระยะๆ แต่ต้องการเรียกร้องว่า ขณะนี้ กรมป่าไม้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้คนใหม่ ที่จะรับตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ และ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนใหม่ที่จะรับตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ น่าจะจับมือกันในการทำคดีบุกรุกสวนป่าบางขนุน ที่รัฐโดยกรมป่าไม้นำเงินงบประมาณมาปลูกป่าเกือบเต็มพื้นที่ หรือเกือบเต็ม 5,000 ไร่ และขอเรียกร้องว่า การที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐเอื้อผู้บุกรุกที่ดินรัฐเพื่อประโยชน์อื่นใด ไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ควรจะถูกดำเนินคดีตามความผิด มาตรา 151

ทั้งนี้ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างและเพื่อการช่วยกันรักษาทรัพย์สมบัติหลวงทรัพย์ของแผนดินคืนทั้งสวนป่าบางขนุนไว้ใช้เพื่อส่วนรวมร่วมกันตลอดไป

“ผมขอชื่นชมอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คนที่จะหมดอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ ที่ท่าน มีคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษในคดีทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่ดิน ในปีงบประมาณ 2564 จำนวน 2 คดีใหญ่ ที่จังหวัดภูเก็ต คือคดีบุกรุกเขานาคเกิด ป่าต้นน้ำของเขื่อนบางวาด 108 ไร่ และคดีที่ 2 คือ คดีบุกรุกวิทยาลัยเทคนิค หรือบุกรุกสวนป่าบางขนุนที่ใช้เพื่อการศึกษาของชาติ และต้องขอชื่นชมอธิบดีกรมป่าไม้ที่กำลังจะหมดอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ที่ย้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับราชการติดที่ในจังหวัดภูเก็ต นานจนป่าถูกบุกรุกทำลาย แต่ขอย้ำว่า ยังคงรอกรรมการจากกรมป่าไม้มาสอบสวน เพื่อต้องการให้นำข้อมูลของเจ้าหน้าที่ไปพิสูจน์ทราบและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้สมบัติของสาธารณะที่คนไทยมีไว้ใช้ร่วมกัน”