นักลงทุนสนใจระบบการเพาะปลูกด้วยหุ่นยนต์ สู้โลกร้อน

ในขณะที่แคลิฟอร์เนียแห้งลงเรื่อย ๆ ในหน้าแล้งจนแทบจะทำอะไรไม่ได้ บริษัทในซิลิคอนวัลเลย์เชื่อว่าหุ่นยนต์สามารถเพาะปลูกพืชได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น และกลุ่มองค์กร  Breakthrough Energy ของบิล เกตส์ ก็เดิมพันกับมัน ด้วยเงินลงทุนรอบล่าสุดมูลค่า 53 ล้านดอลลาร์

รอบการลงทุนสนับสนุนบริษัท Iron Ox ที่ซานคาร์ลอสถูกประกาศเมื่อวันพุธ ( 22 กันยายน ) ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ มุ่งไปสู่การจัดการและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

หุ่นยนต์ ได้ถูกรวมเข้ากับระบบไฮโดรโปนิกส์ที่ Iron Ox ใช้ในการปลูกพืชผล โดยพวกเขาอ้างว่าที่นี่มีการใช้น้ำน้อยกว่าฟาร์มทั่วไป 90% และไฟฟ้าน้อยกว่าฟาร์มแนวตั้งที่ใช้ LED ถึง 90%

ซาร่าห์ โอเซนตาสกี้ รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Iron Ox บอกว่า "ฉันรักหุ่นยนต์ และฉันมาจากเขตมิดเวสต์ ดังนั้นจึงเชื่อจริง ๆ ว่าเราจำเป็นต้องเพาะปลูกในลักษณะที่สามารถหล่อเลี้ยงอนาคตของโลกได้โดยไม่ทำร้ายโลก" 

ที่เรือนกระจกขนาด 10,000 ตารางฟุตในเมืองกิลรอย รัฐแคลิฟอร์เนีย หุ่นยนต์ชื่อ " โกรเวอร์ " กำลังเคลื่อนย้ายถาดการผลิตขนาด 6 ฟุต x 6 ฟุต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโหระพาเจนัว ไปรอบโรงงานโดยใช้กล้องและระบบ Lidar เพื่อนำทาง

มันเป็นงานที่ละเอียดอ่อน แต่ละถาดที่เรียกว่าโมดูล ซึ่งบรรจุน้ำ 80 แกลลอน และมีต้นกล้าประมาณ 70 ต้นอยู่บนแพปลูก โดยปล่อยให้รากแช่อยู่ในน้ำด้านล่าง หุ่นยนต์ต้องขนย้ายถาดที่หนัก 1,200 ปอนด์ และเคลื่อนย้ายมันไปรอบ ๆ โดยไม่ให้น้ำหก หรือทำให้ต้นไม้เครียดมากเกินไป

จุดแวะพักหนึ่งสำหรับโกรเวอร์คือสถานีจ่ายยา ที่มันจะส่งต้นไม้ให้กับ " เอด้า " หุ่นยนต์แขนกลที่ใช้แรงดูดเพื่อยกแพขึ้นจากน้ำ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจสอบรากได้ จุดแวะพักนี้คล้ายกับการไปพบแพทย์ โดยทีมงานใช้เซ็นเซอร์ตรวจน้ำเพื่อดูสารอาหารและส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี หุ่นยนต์ตัวที่ 3 ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์จะมาถึงในเดือนหน้าเพื่อทำหน้าที่นี้

“ สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่คือเรามีเซ็นเซอร์ที่ต่อเข้ากับโมดูล และตรวจสอบปริมาณไนโตรเจน พวกมันจะตรวจสอบโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส และความเป็นกรด แล้วพวกมันก็จะบอกว่า ขาดอะไร สิ่งที่พืชต้องการอะไร แต่เรายังไม่ได้ให้มัน” ซีอีโอ แบรนดอนอเล็กซานเดอร์บอก

น้ำที่ไม่ได้ใช้ สามารถสูบกลับเข้าสู่ระบบเพื่อใช้ซ้ำได้ในภายหลัง 

การใช้น้ำได้รับความสนใจมากขึ้นในแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งการเกษตรมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ภัยแล้งครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดระหว่างปี 2555-2560 ได้ลดปริมาณการชลประทานให้กับเกษตรกร มีการบังคับใช้มาตรการประหยัดน้ำภาคครัวเรือนที่เข้มงวด และการป้องกันไฟป่า

จุดแวะอีกจุดหนึ่งคือสถานีสแกน ซึ่งกล้องจะแขวนไว้เหนือคานโลหะ และถ่ายภาพสามมิติ นักวิทยาศาสตร์จะใช้ข้อมูลและภาพ 3 มิติเพื่อดูผลผลิต ความสม่ำเสมอ ความสูง และลักษณะอื่นๆ

อเล็กซานเดอร์บอกว่า จุดแวะทั้งหมดนี้เปิดโอกาสให้พนักงานให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับผลิตผล และการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถบรรจุและส่งมอบให้กับผู้บริโภค 

ผลิตผลอื่น ๆ ในเรือนกระจกที่กิลรอย ก็รวมถึงโหระพาไทยและสตรอเบอร์รี่ ในขณะที่สำนักงานใหญ่ที่ซานคาร์ลอส พวกเขากำลังทำงานกับผักชี ผักชีฝรั่ง และมะเขือเทศ 

ความสนใจของบริษัทอยู่ที่เรือนกระจก ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถปลูกผลผลิตได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยหุ่นยนต์ที่ทำงานอัตโนมัติ พวกเขากำลังสร้างเรือนกระจกขนาด 535,000 ตารางฟุตในเมืองล็อกฮาร์ต รัฐเท็กซัส ห่างจากออสตินไปทางใต้ 30 ไมล์ ที่นั่นพวกเขาจะใช้โมดูลมากถึง 5,400 โมดูล

อเล็กซานเดอร์ให้เหตุผลว่าการเติบโต มาจากการบูรณาการหุ่นยนต์และความยั่งยืน

ไฮโดรโปนิกส์นั้นยอดเยี่ยม แต่มันเป็นเพียงปริศนาชิ้นเดียว ในการกำจัดการสูญเสียอย่างแท้จริงเพื่อไปสู่ความยั่งยืนและผลกระทบในระดับต่อไป เราต้องคิดใหม่เกี่ยวกับกระบวนการเพาะปลูกทั้งหมด"

 

นักลงทุนที่เข้าร่วมในโครงการมีทั้งจาก Crosslink Capital, R7 Partners และ Pathbreaker Ventures