รัฐบาลมาเก๊าประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะทบทวนกฎหมายที่กำกับดูแลธุรกิจกาสิโน โดยจะใช้เวลา 45 วัน เพื่อเปิดรับฟังความเห็นในประเด็นต่างๆ รวมถึงจำนวนและระยะเวลาของใบอนุญาตประกอบกิจการ รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนของรัฐบาลเพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบการ
การประกาศนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจการพนัน ที่เป็นรายได้หลักของศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ในช่วงที่เศรษฐกิจของมาเก๊าบอบช้ำอย่างมากจากข้อจำกัดการเดินทางในช่วงการระบาดของ โควิด-19
หุ้นของธุรกิจกาสิโนยักษ์ใหญ่ 6 รายในมาเก๊า มีมูลค่าตลาดดลงไปถึงหนึ่งในสามเมื่อวันพุธ หรือสูญเงินไปเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหุ้นของ Wynn Macau ดิ่งลงไป 34% ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหุ้นของ Sands China ร่วงลงไป 28% นอกจากนี้หุ้นของ Peers MGM China, Galaxy Entertainment, SJM และ Melco Entertainment แต่ละรายตกลงกว่า 20%
นอกจากนี้บริษัทกาสิโนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หลายราย ก็มีมูลค่าตลาดลดลง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันพุธ โดยหุ้นของ Las Vegas Sands ลดลง 1.7% ต่ำที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี ส่วน Wynn Resorts ดิ่งลง 8% และ MGM Resorts International ลดลง 5%
การเคลื่อนไหวของมาเก๊าเพื่อจัดระเบียบธุรกิจกาสิโน มีขึ้นในขณะที่จีนกำลังกังวลมากยิ่งขึ้น ที่มาเก๊าพึ่งพารายได้จากการพนันสูงมาก แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในการประมูลขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างไรบ้าง ขณะที่การประมูลขอใบอนุญาตครั้งใหม่จะจัดขึ้นในปีหน้า ก่อนที่สัญญาสัมปทาน 20 ปี ที่อนุมัติให้กับธุรกิจกาสิโนต่างๆ ในมาเก๊าจะหมดอายุในเดือน มิ.ย.ปีหน้า
ก่อนการประกาศของมาเก๊า นักลงทุนก็จับตาด้วยความกังวลแล้ว หลังจากรัฐบาลจีนเดินหน้าจัดระเบียบธุรกิจต่างๆ เช่น เทคโนโลยี สถาบันกวดวิชา เกม เป็นต้น และในช่วงหลายปีนี้มาเก๊าก็เพิ่มการตรวจสอบกาสิโนมากขึ้น โดยมุ่งกวาดล้างการโอนเงินผิดกฎหมาย และการปล่อยสินเชื่อโดยไม่มีการกำกับอย่างเข้มงวด