16 กันยายน 2564 ปริมาณน้ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีอัตราการไหลของน้ำและระดับน้ำลดลง จนสามารถควบคุมได้แล้ว ในขณะที่พื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เพราะเป็นพื้นที่หน่วงน้ำเอาไว้ ทางอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง จึงเพิ่มการระบายน้ำออกจากอ่างฯ ให้มากขึ้น เพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างฯ ให้คืนสู่ปกติ ไว้รองรับน้ำใหม่ ซึ่งปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในอ่างฯ อยู่ที่ 33.425 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 120% ของความจุ แต่อาคารระบายน้ำหลัก (Service Spillway) ยังอยู่ในระหว่างปรับปรุง ทำให้ไม่สามารถควบคุมการปล่อยน้ำออกได้ จึงพิจารณาแนวทางการเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายอ่างฯ ให้มากยิ่งขึ้น แต่จะไม่ให้เกิดผลกระทบมากขึ้นจากเดิม
ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว ที่ emergency spillway เพิ่ม 1 เครื่อง รวม 2 เครื่อง รวมทั้ง ติดตั้งกาลักน้ำ เพิ่ม 3 เครื่อง รวม 4 เครื่อง อัตราการระบาย 40,000 ลบ.ม. ต่อวัน และเพิ่มอัตราการระบาย intercept drain ผ่านท่อ 18 นิ้ว 4 แถว และฝายสันแข็ง ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการระบายน้ำรวมได้ ประมาณ 5.50 ลบ.ม./วินาที พร้อมกันนี้ เร่งซ่อมแนวกั้นคลอง RMC ที่เสียหาย และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มที่สะพานบ้านส้ม เพื่อเร่งการระบายน้ำในลำเชียงไกรท้ายอ่างฯ ลงลำมูล
ซึ่งจากการเพิ่มปริมาณการระบายน้ำที่มากยิ่งขึ้นจากอ่างลำเชียงไกรตอนล่างในครั้งนี้ ได้ส่งผลทำให้มวลน้ำบางส่วนไหลล้นตลิ่ง เอ่อเข้าท่วมชุมชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ ร้อยตรี ฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านในพื้นที่ จึงช่วยกันกรอกกระสอบทรายและถุงบิ๊กแบค นำไปวางขวางชลอเส้นทางเดินน้ำเอาไว้ โดยเฉพาะบริเวณคอสะพานลำห้วยท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ที่ถูกความแรงของน้ำไหลเซาะ จนทำให้เกิดความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำด้านท้ายอ่างฯ ให้เพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงนี้
โดย - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ